ต่าย ชัชฎาภรณ์ ให้กำลังใจ ‘คะน้า’ ปมไฮโซเก๊ ลั่นโลกนี้อยู่ยากขึ้น เตือนสังคม อย่าหลงเชื่อรูปถ่ายง่ายๆ
จากกรณีนักแสดงสาว คะน้า ริญญารัตน์ ได้ออกมาแฉ นายฮอต อดีตแฟนหนุ่ม ที่หลอกคบดาราสาว อ้างตัวว่าเป็นไฮโซ และยังมีการแอบอ้างเบื้องสูง รวมถึงนักการเมืองต่างๆ
ล่าสุดนักแสดงสาว ต่าย ชัชฎาภรณ์ มาร่วมงาน EXCLUSIVE PRESS INTERVIEW ‘เงากามเทพ’ ณ ชั้น 1 อาคาร 7 ช่อง 7HD ก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับคะน้า ในฐานะเคยเป็นนักแสดงร่วมช่อง โดยได้เผยว่า
“สำหรับข่าวของน้องคะน้า ต่ายก็รู้ตามข่าวเหมือนกัน คือไม่ได้ทราบล่วงหน้า แต่ตามข่าวบ้างแต่ก็ไม่ได้เห็นครบทุกข่าว เพราะว่าบางครั้งก็ยังเรียลไทม์อยู่เลย ก็ยังต้องฟังข่าวกันต่อไป ว่าต่อๆ ไปว่าเขาจะพิจารณาอย่างไร เพราะว่าต่ายก็ทราบมาว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายด้วย มีการขึ้นศาลกัน คือก็ต้องรอฟังต่อไป เพียงแต่ว่าถ้าเป็นความรู้สึกของเรา ต่ายก็มองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครเราก็ต้องให้กำลังใจกัน ในมุมของเราเป็นผู้หญิงด้วย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็น่าจะสะเทือนใจ ทั้งตัวน้องเองและทั้งคนที่รักน้อง ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ไม่ว่าเหตุการณ์จะจบอยู่ที่ตรงไหนก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ส่วนคะน้ากับต่ายน่าจะเคยเจอกันที่ช่องบ้าง แต่ว่าไม่น่าจะมีละครด้วยกัน อันนี้ไม่แน่ใจ”
“คือเรื่องของคะน้ามันลุกลาม และคนพูดถึงเยอะเหมือนกัน ทุกช่องทุกสื่อเลย คือถ้าเป็นต่าย ต่ายก็คงเครียด เรื่องแบบนี้ต่ายบอกตรงๆ ว่าไม่รู้จะวิเคราะห์ยังไง คือถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะทำได้อย่างที่น้องทำหรือเปล่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิง แต่ว่าผู้หญิงต้องมีความเข้มแข็งในตัวเองก่อนอันดับหนึ่ง เพราะต่ายมั่นใจว่าน้องเสียใจอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้น้อง คือหลายคนชื่นชมในความกล้าของน้องที่กล้าออกมาพูด ต่ายถึงบอกว่าถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่รู้หรอก เราอาจจะเข้มแข็งไม่ได้เท่ากับที่น้องทำก็ได้ แล้วสิ่งที่น้องทำต่ายก็มองว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้ผู้ชายคนนี้เขาได้ยุติวงจรนี้สักที เพราะว่าเท่าที่ต่ายทราบมาก็มีคนที่เสียหายเรื่องนี้เยอะมาก ก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
เรื่องนี้มันสะท้อนสังคมอย่างไรบ้าง?
“คือมันน่ากลัวมาก มันมีความรู้สึกว่าทำไมโลกนี้มันอยู่ยากขึ้นเหลือเกิน ถ้าเราเป็นคนของประชาชน ถ้าเราเป็นดารา มีใครมาถ่ายรูปคู่กับเราเวลาเราไปงาน เราปฏิเสธไม่ได้ แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่ารูปนี้จะไปทำความเดือดร้อนให้กับใคร นั่นเป็นสิ่งที่ดูแล้วดูน่ากลัว ดังนั้นไม่ว่าเราจะคบใครเป็นเพื่อน หรือว่าจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ต่ายว่าต้องคิดให้เยอะๆ ต้องวางแผนดีๆ แล้วก็ตัวเราเองต้องรอบคอบกว่าเดิมในการคบคน ในการเลือกเพื่อน หรือว่าต้องไม่พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่อโคจร หรือว่ามีความเสี่ยง เพื่อความเซฟตี้ ซึ่งในเรื่องแปลกๆ ที่ต่ายเคยเจอ ของต่ายจะมีประเภทที่ไลน์มาแล้วก็แบบว่าต่ายไม่รู้จัก ซึ่งมาในรูปแบบที่ต่ายเดาว่าเป็นมิจฉาชีพ เข้ามาคุยด้วย แต่ต่ายก็ไม่ได้ตอบ อ่านแต่ไม่ตอบ แล้วก็ไปถามเพื่อนๆ นี่แหละคือการรีเช็ก เราต้องไปถามกับเพื่อนๆ ก่อนว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้นกันบ้างไหม พอเรารู้ว่ามันไม่ใช่เราคนเดียวนะ ดังนั้นเราก็ต้องแบบคิดเยอะๆ นิดนึงในการที่จะคุยกับใครว่าเขาเป็นตัวจริงหรือว่ามิจฉาชีพ”
มีความกังวลไหมถ้ามีคนเข้ามาขอถ่ายรูป?
“สำหรับจุดนี้เรื่องการขอถ่ายรูปต่ายก็ไม่ปฏิเสธเหมือนเดิม เพียงแต่อย่างที่บอกว่าต่ายคงไม่ปฏิเสธการขอถ่ายรูป เรายังคงเป็นคนเดิมของประชาชน เรายังชอบที่จะยิ้ม เรายังชอบที่จะทักทาย แล้วถ้าเรายังมีอาชีพนี้อยู่ มีความสุขที่ได้เจอคน ดังนั้นต่ายบอกแล้วว่าตัวเราเองต่างหากที่ต้องพิจารณาดีๆ ว่าอย่าไปหลงเชื่อรูปถ่ายง่ายๆ ก็ฝากเตือนหลายๆ คน เพราะเราไม่รู้หรอกว่ารูปนั้นจริงเท็จแค่ไหน เขาจะเอารูปธรรมดาไปเล่าเรื่องอีกแบบนึง ดังนั้นการใช้วิจารณญาณในการเสพสื่ออันนี้สำคัญมากๆ แล้วพอมันมีด้านบวกแล้วมันก็ต้องมีด้านลบในเรื่องของคอมเมนต์ มันเป็นเรื่องที่เราห้ามไม่ได้ เราห้ามคนคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่เขาอ่านข่าวหรือเสพข่าวเขาจะพิจารณาเกี่ยวกับรูปที่เห็นหรือคดียังไง คือทำได้อย่างเดียวคือ ตัวน้องเองต้องเข้มแข็ง และอยากให้ส่งกำลังใจให้น้อง”