บอย-ภัทร์ เปิดใจทั้งน้ำตา แม่งามทิพย์ สู้มะเร็งไตมา 6 ปี ภูมิใจได้เกิดเป็นลูก บอกแม่ไม่ต้องห่วง

สู้มา 6 ปี ‘บอย-ภัทร์’ เปิดใจทั้งน้ำตา เผย ‘แม่งามทิพย์’ ป่วยเป็นมะเร็งไต เผยที่วันใหม่ร้องไห้ขนาดนั้น เพราะไม่เคยเจอความเสียใจขนาดนี้ บอกแม่ไม่ต้องห่วง จะดูแลน้องๆ เอง ไม่ทิ้งกันแน่นอน

นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัว ฉัตรบริรักษ์ ที่ได้สูญเสีย คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ ด้วยโรคมะเร็ง ในวัย 68 ปี ทั้งนี้ บอย ปกรณ์ พระเอกชื่อดัง และ ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ น้องชาย ได้เปิดใจครั้งแรกกับสื่อมวลชน ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของคุณแม่ทั้งน้ำตาว่า

โดยบอยเผยว่า “มีคนมาส่งแม่เยอะมากๆ ดีใจแทนแม่มาก ขอบคุณจริงๆ ไม่คิดว่าจะมาเยอะขนาดนี้ รวมถึงขอบคุณสื่อมวลชนด้วยที่ไม่ใช่มาแค่ทำงาน แต่มาช่วยงานด้วย ได้เห็นความรักที่ทุกคนมีให้แม่และวันใหม่ด้วย ขอบคุณมากจริงๆ ครับ”

“สำหรับอาการป่วยของคุณแม่ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครทราบเลยว่าแม่ไม่สบายมา 6 ปีแล้ว ด้วยอาการของโรคมะเร็งที่ไต ซึ่งก็มีช่วงที่โรคควบคุมได้และช่วงที่ลุกลาม แต่ช่วงสุดท้ายของแม่ ท่านมีบุญมาก ท่านจากไปอย่างสงบ ไม่เจ็บไม่ปวดไม่ทรมาน”

ด้านภัทร์กล่าวว่า “จริงๆ แอบปุบปับเหมือนกัน ช่วงท้ายๆ ของคุณแม่ก็ได้คุยกันเยอะหน่อย แม่ฝากอะไรยังไง แต่ไม่ได้เรียกลูกๆ มานั่งคุยกันพร้อมหน้า”

ADVERTISMENT

โดยบอยเสริมว่า “ช่วงสุดท้ายของคุณแม่คืออยู่โรงพยาบาล 3 เดือน ก่อนหน้ามีสัญญาณจากอาการ เรื่องของอาการว่าคุณแม่เหลือเวลาเท่าไหร่ แต่ในช่วงเวลานั้นเราไม่ได้นั่งถามแม่ หรือมาสั่งลากัน คือใจหนึ่งก็รู้ แต่อีกใจหนึ่งคืออยากให้แม่อยู่ด้วยนานที่สุด เลยไม่ได้สั่งลากันเป็นกิจจะลักษณะ อย่างตอนก่อนเข้าโรงพยาบาลได้คุยกันว่า แม่สู้นะ แม่ทำใจ และปล่อยวางได้ ถ้าเป็นแต่ก่อนแม่อาจจะห่วงมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เห็นว่าลูก 3 คนดูแลตัวเองได้ ดูแลวันใหม่ได้ ถามว่าเขาหมดห่วงไหมก็คงหมดห่วงแล้ว ที่คุยกันเป็นประมาณแค่นี้ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นเหมือนบอกลา ไม่ได้อยากให้เขาเสียกำลังใจด้วย สู้นะแม่ ถ้าแม่สู้ บอย หน่อง ภัทร์ก็สู้ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ พวกเราสู้หมดเลย”

ต่อข้อถามถึงสภาพจิตใจของน้องวันใหม่ที่หลายคนเป็นห่วง บอยเผยว่า “จริงๆ วันใหม่เขาก็พอจะรับรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยากให้เกิดปุบปับกลัวน้องตกใจ เราบอกแต่ไม่ได้แจ้งตรงๆ บอกเขาตามสถานการณ์ เขาเข้าใจ แต่สุดท้ายแม้เขาจะดูตัวโต แต่ข้างในเขาเป็นเด็ก ปกติวันใหม่นอนกับแม่ตลอด พอมีช่วงที่แม่เข้าโรงพยาบาล เขาก็รู้ว่าแม่ไม่สบาย แต่เราไม่ได้บอกเขาเรื่องดีกรี แต่ถ้าปล่อยให้เขารู้ปุบปับเขาอาจจะรับไม่ไหว ช่วงที่แม่เข้าโรงพยาบาล 3 เดือน เราบอกวันใหม่ว่าแม่ไม่ค่อยสบายนะ ฉะนั้นวันใหม่อย่าดื้อกับแม่นะ พวกเฮียไม่ได้อยากบอกวันใหม่แบบนี้เลย แต่ถ้ามีอะไรอยากบอกกับแม่ให้บอกเลย ความจริงช่วงที่ผ่านมาเรา 3 คนเรียกว่าเป็นช่วงวิกฤตว่าจะไปช่วงทางไหนต่อ มีช่วงท้ายๆ ว่าแม่มีสัญญาณไม่ดีว่าอาจจะอยู่ได้ไม่นาน เราก็ไปบอกวันใหม่ แต่ด้วยความเป็นเด็ก เขาก็คิดว่าไม่นานคืออีกหลายเดือน อย่างที่ทุกคนเห็นวันแรกนั้นแหละ พอเกิดสถานการณ์จริง เขาตกใจมากกว่า พอคนเข้ามาโอ๋ก็ยิ่งปลุกความรู้สึกเดิมขึ้นมาอีก หลังผ่านงานแม่มา 2-3 วัน ผมก็ถามวันใหม่ว่าทำไมวันนั้นร้องเยอะ เขาบอกว่าไม่เคยเจอความเสียใจขนาดนี้ พอได้ยินคำนี้มันอิมแพกต์กับผมนะ แต่ตอนนี้เขาเข้มแข็งมากขึ้น ขอบคุณแขกทุกคนด้วยที่มาหามาเล่นกับเขา”

สำหรับกำหนดการในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.68) บอยกล่าวว่า “พรุ่งนี้จะมีพิธีฌาปนกิจคุณแม่ เริ่มเคลื่อนร่างไปที่เมรุ 2 ประมาณ 11 โมงครึ่ง ถ้าใครที่สะดวกมาจะมาร่วมงานไปพบกันที่เมรุ 2 ได้เลยตอนประมาณเที่ยงครึ่ง ส่วนเรื่องลอยอังคารเราจะไปลอยกันในวันอาทิตย์ที่ 15 มิ.ย. ผมจะพาคุณแม่ไปลอยที่พัทยา ซึ่งเป็นที่เดียวกับคุณพ่อ อยากให้ท่านได้อยู่ด้วยกัน”

ต่อข้อถามว่ามีอะไรที่จะฝากถึงคุณแม่ไหม ภัทร์เผยว่า “แค่จะบอกแม่ว่าไม่ต้องห่วง แม่เป็นคนที่ทำทุกอย่างไว้ให้พวกผม เพราะกลัวว่าถ้าเกิดวันนึงเขาไม่อยู่ พวกผมจะลำบาก แต่ผมว่าสิ่งที่แม่สร้างให้พวกผมจริงๆ ก็คือพี่น้อง พวกผมไม่ได้คุยกันเยอะในเรื่องส่วนตัว เราเป็นบ้านผู้ชายๆ แต่พอเป็นเรื่องนี้เราก็มารวมตัวกันเพื่อตัดสินใจ ทำให้เราได้คุยกันเยอะขึ้น บางครั้งในเรื่องที่เราไม่กล้าพูด เราก็กล้าพูดมากขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้รู้ว่าเมื่อแม่ไม่อยู่เรายังมีพี่น้อง นี่คือสิ่งที่ที่ดีที่สุดที่แม่ทิ้งไว้ให้”

ด้านบอยเผยว่า “จริงๆ พวกเราสนิทกัน แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้ชายจะไม่เล่าเรื่องส่วนตัว แต่เราก็ยังใช้เวลากินข้าวคุยเล่นบ้าๆ บอๆ เรื่องความรักครอบครัวบ้านผมไม่แพ้บ้านใคร ผมกล้าพูดว่าเป็นความภูมิใจของแม่ แม่ไม่เคยพูดกับผมหรอก แต่มักจะคุยกับญาติๆ และเพื่อนๆ ว่าดีใจที่ลูกๆ ในบ้านสามัคคีและรักกัน ถ้าถามว่าผมอยากพูดอะไรกับแม่ สำหรับผมไม่ต้องพูดอะไร แม่เขารู้หมดเลยว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา สำหรับผมแม่คือทุกอย่างของผม เพราะฉะนั้นถึงเขาจะบอกว่าไม่เคยเป็นห่วง แต่สุดท้ายความที่เป็นเขาก็คงยังเป็นห่วงอยู่ดี แต่ผมอยากบอกว่าแม่ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ผมจะดูแลน้องๆ เอง ไม่ว่าต่างคนจะไปมีครอบครัวผมก็จะดูแลไม่ทิ้งกันแน่นอน ทั้งหน่อง ภัทร์ วันใหม่ ขอให้แม่สบายใจในเรื่องนี้ได้ ส่วนเรื่องที่แม่เป็นห่วงก็คือยังไม่สร้างบ้านสักที แต่ว่าแม่เขาจัดการให้ทุกอย่างแล้ว ที่เขาเร่งสร้างสตูดิโอผมอยากจะอวดแล้วกัน ที่พวกพี่เห็นสตูฯ ที่ไปถ่ายกัน แม่สร้างตอนที่แม่ไม่สบายทั้งหมด ต่อให้เขาไม่สบายเขาก็ไปยืนบนเก้าอี้ฉาบปูน จนลูกๆ มาเห็นก็จะบอกให้ลงมาเพราะว่ายังไม่สบายอยู่ แต่พอพูดแบบนี้เขาก็จะหงุดหงิด เพราะเขาบอกว่ายังไหวอยู่”

“จริงๆ มีอีกโปรเจ็กต์หนึ่งที่ยังค้างอยู่ ซึ่งแม่ก็บอกว่าเสียดายที่ยังทำไม่เสร็จ เดี๋ยวผมก็ต้องประสานต่อ สุดท้ายผมขอพูดแทนลูกๆ ทุกคนได้เลยว่า พวกเราภูมิใจมากๆ ที่ได้เกิดเป็นลูกแม่ครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในบางช่วงของการสัมภาษณ์ บอยและภัทร์ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนกลั้นน้ำตาของความเสียใจไม่อยู่ด้วย

ต่อจากนั้นในเวลา 19.00 น. จะเป็นพิธีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ คืนสุดท้าย โดยมี “กลุ่มแฟนคลับบ้านฉัตรบริรักษ์” เป็นเจ้าภาพ