วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ จ.หนองคาย เกิดเหตุน้ำป่าจากอุดรธานี ไหลเข้าพื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย แรงน้ำพัดพาท่อนไม้ปะทะสะพานจนคอสะพานขาด เสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน สถานีสูบน้ำถูกกระแสน้ำพัดสูญหาย ส่งผลให้ชาวบ้าน 114 หลังคาเรือนถูกตัดขาด ไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ หลายหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าดังกล่าว ไหลลงมายังลำน้ำฮวยซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง พัดพาเอาท่อนไม้กิ่งไม้ต่างๆ แรงกระแทกทำให้สะพานทางเข้าออกหมู่บ้านวังมน บริเวณคอสะพานขาด ประมาณ 5 เมตร แรงน้ำยังกระแทกถนนทางเข้าหมู่บ้านขาดประมาณ 200 เมตร เสาไฟฟ้าหักโค่น 4 ต้น สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าซึ่งมีเครื่องสูบน้ำขนาด 2 นิ้ว 4 แรง จำนวน 2 เครื่อง มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ถูกน้ำพัดหายไป ขณะที่ชาวบ้านวังมน 114 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 500 คน ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เบื้องต้นนายศิริศักดิ์ เบ้าแก้ว นายก อบต.บ้านม่วง ได้ประสานความช่วยเหลือกับ พ.ต.ท.นิพนธ์ สมานชาติ สารวัตรใหญ่ สภ.นางิ้ว ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.หนองคาย และฝ่ายปกครอง อ.สังคม พร้อมประสานการไฟฟ้าให้ช่วยแก้ปัญหาไฟฟ้าดับให้ชาวบ้าน ขณะที่ นรข.เขตหนองคายได้นำเรือท้องแบน 2 ลำมาช่วยรับส่งชาวบ้าน
นางสาวพัชริดา บุรานศรี อายุ 37 ปี ผู้ใหญ่บ้านวังมน กล่าวว่า ได้มีฝนตกในพื้นที่ตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ชาวบ้านได้ยินเสียงครืนครานดังลั่น เป็นเสียงน้ำป่าและเสียงเสาไฟฟ้าใกล้หักโค่น จึงรีบไปที่วัดของหมู่บ้านเพื่อตีกลองแจ้งให้ชาวบ้านทุกคนออกจากบ้านมาหลบที่วัด ด้วยเกรงว่าเสาไฟฟ้าจะดึงกันหักโค่นใส่บ้านเรือน จากนั้นเสาไฟฟ้าก็ล้มครืนลง ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน จึงได้โทรแจ้งตำรวจ สภ.นางิ้วให้ทราบ และรอจนถึงเช้าจึงมาสำรวจความเสียหายก็พบว่าถนนทางเข้าหมู่บ้านขาด คอสะพานขาด นาข้าวของชาวบ้านที่ใกล้จะได้เก็บเกี่ยวประมาณ 60 ไร่ได้รับความเสียหาย นักเรียนประมาณ 80 คน ไม่สามารถไปโรงเรียนได้
ด้านนายศิริศักดิ์ เบ้าแก้ว นายก อบต.บ้านม่วง กล่าวว่า ทันทีที่ทราบเหตุได้ออกมาตรวจสอบพื้นที่ก็พบความเสียหายหลายอย่าง ซึ่งสะพานนี้เป็นสะพานหลักที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออก สภาพสะพานอยู่ต่ำ เมื่อน้ำหลากก็ซัดตัวสะพานเสียหายมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด เมื่อสะพานขาดก็เหมือนหมู่บ้านวังมนถูกตัดขาด เบื้องต้นได้ตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือประชาชน จัดหาน้ำดื่ม น้ำใช้ ข้าวกล่อง มาให้ชาวบ้าน ส่วนการซ่อมแซมสะพานนั้นขณะนี้ทางโยธาธิการและผังเมืองอยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบสะพานใหม่ ยังไม่ได้จัดสรรงบประมาณดำเนินการ แต่สะพานก็มาขาดเสียก่อน อยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสะพานแบริ่งมาติดตั้งให้ชาวบ้านได้ใช้เป็นการชั่วคราวก่อน ขณะที่ อบต.บ้านม่วง จะขออนุมัติงบประมาณจากสภา อบต. ที่มีอยู่ประมาณ 11 ล้านบาทมาให้ความช่วยเหลือประชาชน ส่วนปัญหาการขาดแคลนน้ำเนื่องจากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าถูกกระแสน้ำพัดสูญหาญ จึงได้ประสานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 นำรถผลิตน้ำดื่มน้ำใช้มาช่วยเหลือ
