หลังผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก “ยูโร 2016” มีส่วนสำคัญให้มูลค่าทางการตลาด 16 ชาติที่ทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาต์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย รวมถึงมูลค่านักเตะต่างอัพเกรดไปตามฝีเท้า ฟอร์มการเล่น รวมถึงมูลค่าทางการตลาด
“ทรานสเฟอร์มาร์เก็ต” บริษัทจัดอันดับมูลค่านักเตะของอังกฤษ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่านักเตะจากทั้ง 16 ทีมสุดท้าย รวมถึงได้จัดอันดับมูลค่าของทั้ง 16 ทีมในศึกยูโร 2016 นี้ด้วย
อันดับ 1 “กระทิงดุ” สเปน แซงขึ้นมาครองแชมป์ด้วยมูลค่าทีม 440 ล้านปอนด์ (ราว 21,255 ล้านบาท) ถือว่าเพิ่มขึ้นจากรอบแรกถึง 12 ปอนด์ (ราว 580 ล้านบาท) โดยนักเตะค่าตัวสูงสุดคือ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ โกเก้ คนละ 45 ล้านปอนด์ (ราว 2,174 ล้านบาท)
ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ทีมแพงสุดจากรอบแรก หล่นมาอันดับ 2 ด้วยมูลค่าทีม 435 ล้านปอนด์ (ราว 2,014 ล้านบาท) แต่นับว่าเพิ่มขึ้นถึง 13 ล้านปอนด์ (ราว 628 ล้านบาท) ส่วนนักเตะค่าตัวสูงสุด โธมัส มุลเลอร์ 56.26 ล้านปอนด์ (ราว 2,717 ล้านบาท)
อันดับ 3 “ตราไก่” ฝรั่งเศส กระโดดมาจากอันดับ 5 ด้วยมูลค่าทีม 365.25 ล้านปอนด์ (ราว 17,644 ล้านบาท) พุ่งขึ้นถึง 41.62 ล้านปอนด์ (ราว 2,010 ล้านบาท) โดยนักเตะค่าตัวสูงสุด ปอล ป๊อกบา และ อ็องตวน กรีซมันน์ 52.5 ล้านปอนด์ (ราว 2,536 ล้านบาท)
อันดับ 4 “สิงโตคำราม” อังกฤษ 357.75 ล้านปอนด์ (ราว 17,281 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 23.25 ล้านปอนด์ (ราว 1,123 ล้านบาท) นักเตะแพงสุด ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 33.75 ล้านปอนด์ (ราว 1,630 ล้านบาท)
และอันดับ 5 “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม หล่นจากอันดับ 4 มีมูลค่าทีม 351 ล้านปอนด์ (ราว 16,955 ล้านบาท) แต่เพิ่มขึ้น 5.32 ล้านปอนด์ (ราว 257 ล้านบาท) และนักเตะแพงสุด เอเด็น อาซาร์ 48.75 ล้านปอนด์ (ราว 2,354 ล้านบาท)
ส่วนอันดับอื่น โปรตุเกส 265.13 ล้านปอนด์ (ราว 12,807 ล้านบาท), โครเอเชีย 216.19 ล้านปอนด์ (ราว 10,443 ล้านบาท), โปแลนด์ 157.09 ล้านปอนด์ (ราว 7,588 ล้านบาท), สวิตเซอร์แลนด์ 131.14 ล้านปอนด์ (ราว 6,480 ล้านบาท), เวลส์ 127.58 ล้านปอนด์ (ราว 6,163 ล้านบาท), ไอร์แลนด์เหนือ 65.48 ล้านปอนด์ (ราว 3,163 ล้านบาท), สโลวาเกีย 63.3 ล้านปอนด์ (ราว 3,057 ล้านบาท), ไอซ์แลนด์ 33.56 ล้านปอนด์ (ราว 1,621 ล้านบาท), ไอร์แลนด์เหนือ 28.58 ล้านปอนด์ (ราว 1,380 ล้านบาท) และ ฮังการี อันดับสุดท้าย 18.98 ล้านปอนด์ (ราว 919 ล้านบาท) โดยทุกทีมต่างมูลค่าเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ด้านนักเตะค่าตัวแพงสุดจาก 16 ทีมยังคงเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 82.50 ล้านปอนด์ (ราว 3,985 ล้านบาท) รองลงมา แกเร็ธ เบล 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,898 ล้านบาท) ตามด้วย โธมัส มุลเลอร์ 56.26 ล้านปอนด์ (ราว 2,717 ล้านบาท) และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กัปตันทีมโปแลนด์ 56.25 ล้านปอนด์ (ราว 2,717 ล้านบาท)
จากผลงานในรอบแรกทำให้ทั้ง 16 ทีมมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากนักเตะที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นของแต่ละทีม จนช่วยส่งผลให้มูลค่าทีมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่จะสังเกตเห็นว่านักเตะบางคนที่โชว์ฟอร์มเหลวกลับมีค่าตัวพุ่งสูงขึ้นอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และปอล ป๊อกบา รวมถึง โกเก้ ที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่มีราคาแพงยิบ
หรืออาจเป็นเพราะว่านักเตะเหล่านี้กำลังจะย้ายต้นสังกัดใหม่ค้าแข้งในฤดูกาลหน้าก็เป็นได้ แต่ค่าตัวสูงขนาดนี้สโมสรไหนจะกล้าทุ่มเงินคว้าตัวไปร่วมทัพ อีกทั้งยังโชว์ฟอร์มไม่สมราคาในศึกยูโรอีกด้วย!
