บทนำมติชน 4 กรกฎาคม 2563 : ความคาดหวัง

บทนำมติชน 4 กรกฎาคม 2563 : ความคาดหวัง

บทนำมติชน 4 กรกฎาคม 2563 : ความคาดหวัง

มาถึงเฟส 5 แล้ว ธุรกิจและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ได้รีสตาร์ตเริ่มต้นดำเนินการอีกครั้ง อันเป็นความพยายามของรัฐบาล ที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ให้ประชาชนสร้างรายได้ ขณะที่กิจการหลายแห่ง เริ่มปิดตัวและเลิกจ้างพนักงาน ล่าสุดนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่า หลังคลายล็อก ประเมินว่า น่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยและเม็ดเงินสะพัดเพิ่มมากขึ้นกว่า 2.7 แสนล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากการบริโภคและอุปโภคของประชาชน เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เงินหมุนเวียนน่าจะอยู่ในระดับดังกล่าวได้ ส่วนการท่องเที่ยวยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังเร็วเกินไป รวมถึงมาตรการท่องเที่ยวในประเทศ จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อได้หรือไม่ ยังต้องรอประเมินผล หลังจากเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน

ประธานสภาหอการค้าฯ ระบุว่า ภาคการส่งออกยังดูไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งได้หารือร่วมกับหอการค้าญี่ปุ่น ถึงความต้องการว่า หากนักลงทุนญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในประเทศ ต้องการอะไรบ้าง จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า ไทยยังเป็นประเทศแรกๆ ที่นักลงทุนจากญี่ปุ่นต้องการเข้ามาลงทุน สำหรับวันหยุดยาว 4-7 ก.ค. คาดว่าจะมีประชาชนออกเดินทางจำนวนมาก ทั้งการกลับภูมิลำเนา หรือเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยว ส่วนการใช้จ่ายของประชาชน คาดว่าจะยังคงชะลอการใช้จ่าย หรือใช้จ่ายไม่มากเท่าที่ควร เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถจบได้ตอนใด รวมถึงยังไม่กล้าใช้จ่ายกับเรื่องท่องเที่ยวมากนัก

แม้ว่าการควบคุมโควิด-19 ของประเทศไทยทำได้ดี แต่ผลที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้คือ สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในสภาพน่าห่วง ทำให้รัฐบาลต้องกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ การเปิดให้นักธุรกิจ กลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อทำธุรกิจ หาสถานที่ทำงานที่ได้พักผ่อนอย่างปลอดภัยไปด้วย ได้เดินทางเข้ามา แต่ควรจะมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด เพื่อให้คนไทย และต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา มีความเชื่อมั่น วางใจในมาตรการของประเทศไทย และน่าจะมีผลด้านบวกช่วยเสริมเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image