บทนำมติชน : สมานฉันท์อีกแล้ว
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่ารัฐสภาสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ด้วยมาตรการสาธารณสุข กระบวนการทางฝ่ายนิติบัญญัติที่ทีแรกดูเหมือนจะต้องชะงักก็กลับมาขับเคลื่อนได้ตามปกติ ด้านหนึ่งทางพรรคฝ่ายค้านมีมติจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล อีกด้านหนึ่งคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นัดเวลาการประชุมอีกครั้งเริ่มวันที่ 21 มกราคม ขณะที่คณะกรรมการสมานฉันท์ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเริ่มประชุมกันแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่รัฐสภา คณะกรรมการสมานฉันท์ 11 คน ได้ประชุมกันนัดแรก โดยที่ประชุมเลือก นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ เป็นประธานคณะกรรมการ ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าร่วมประชุมด้วย และให้กำลังใจคณะกรรมการ เนื่องจากงานดังกล่าวเป็นงานที่หนักและถูกมองตั้งแต่แรกแล้วว่าล้มเหลว แต่ก็หวังว่าภารกิจที่ทำ แม้จะไม่ได้ผลเลิศ ก็อยากเห็นโอกาสที่จะเกิดการพูดคุยและรู้ข้อเท็จจริงร่วมกัน ฟังผู้รู้ให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ไม่ใช่ของกลุ่มหรือพรรคหรือส่วนบุคคล แต่เป็นประโยชน์ของประชาชน และขอให้ยึดการปกครองประชาธิปไตยเป็นหลักในการพิจารณา
การประชุมนัดแรกถือเป็นการผลักดันให้ประเทศไทยมีความหวังที่จะสมานฉันท์อีกครั้ง แม้คณะกรรมการที่ปรากฏชื่อจะได้รับคำปรามาสว่าจะทำภารกิจสำเร็จยาก แต่คณะกรรมการเมื่อรับปากที่จะทำหน้าที่ผลักดันการสมานฉันท์แล้วก็ต้องเดินหน้าทำให้บรรลุผล โดยบรรลุผลมากกว่าการหาข้อเท็จจริง สรุปเป็นข้อเสนอที่เป็นเอกสาร แล้วรอให้คู่ขัดแย้งคือรัฐบาล ฝ่ายค้าน รวมไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตาม ซึ่งเป็นไปไม่ได้
คณะกรรมการสมานฉันท์ชุดนี้ต้องยก
ภารกิจสมานฉันท์เป็นหลัก แล้วเพิ่มเติมหาทางสู่ความสำเร็จออกมาก่อนที่จะหมดภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอเป็นร่างกฎหมาย ผลักดันกฎหมาย หรือการกระทำอื่นใดเพื่อให้เกิดรูปธรรมที่จะนำไปสู่การสมานฉันท์ และเชื่อว่า แม้คณะกรรมการชุดนี้จะยังไม่มีพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาร่วม แต่หากสามารถผลักดันเรื่องสมานฉันท์เป็นรูปธรรม แต่ละฝ่ายที่ไม่ไว้วางใจอาจจะกลับมาไว้วางใจและเข้าร่วมสมานฉันท์ และผลักดันให้การสมานฉันท์เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่การถ่วงเวลาเหมือนดั่งที่มีความเข้าใจกันอยู่ในปัจจุบัน
