บทนำ : รัฐบาลเสียงข้างน้อย

รัฐบาลเสียงข้างน้อย

รัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ชี้แจง ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กรณีพูดถึงการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ว่า เรื่องนี้มีสื่อมวลชนมาถาม สามารถตั้งได้หรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้หมายความว่าจะมีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยบอกว่า ทุกพรรคพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องการรัฐบาลเสียงข้างมาก และโดยหลักการก็ควรจะเป็นเสียงข้างมาก แต่ถ้าหากถึงเวลาแล้วเกิดทางตัน ไม่สามารถตั้งได้ ก็จะต้องตั้งเสียงข้างน้อย แต่ปัญหาคือการผ่านด่านเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี แม้เป็นเสียงข้างน้อย แต่ก็ต้องมีเสียงมากที่สุดในรัฐสภา ต้องหาแล้วหาอีก เพราะกติกาไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการหานายกฯ

รัฐธรรมนูญ ม.272 ญัตติ 5 ปีแรกนี้ การเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเป็นนายกฯ ให้กระทําในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติที่เห็นชอบ ต้องมีคะแนนเสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หากไม่อาจแต่งตั้งจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ สมาชิกไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสองสภา เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาขอให้ มีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกฯจากบัญชีพรรคการเมือง กรณีที่รัฐสภามีมติไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ จะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีพรรคการเมืองแจ้งไว้หรือไม่ก็ได้

โดยปกติแล้ว การโหวตแต่งตั้งนายกฯ ตาม ม.159 สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้ง ด้วยเสียงกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรือ 250 เสียงขึ้นไป แต่การเลือกตั้งทั่วไป 14 พฤษภาคม 2566 อยู่ในกรอบ 5 ปีบทเฉพาะกาล ให้กระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งมีองค์ประกอบ คือ ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน รวม 750 คน เกณฑ์ตัดสิน คือ เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 376 คน ที่มีการพูดถึงรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีความเป็นไปได้ เนื่องจากหากพรรคการเมืองรวมเสียง ส.ส.เป็นข้างมากได้เกิน 250 คน แต่เสียงในสองสภาไม่ถึง 376 แต่งตั้งนายกฯไม่ได้ ขณะที่อีกฝ่าย แม้เป็นเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนฯ แต่หาก 250 ส.ว.โหวตสนับสนุน แต่งตั้งเป็นนายกฯ รัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง จะกลายเป็นเสียงข้างน้อยทันที

Advertisement

หัวข้อรัฐบาลเสียงข้างน้อย ฝ่ายการเมือง และนักวิชาการ ได้พูดถึงกันค่อนข้างมากในขณะนี้ ว่าอาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากแนวโน้มที่พรรคซึ่งได้รับการคาดหมายชนะเลือกตั้ง จะรวบรวมเสียง ส.ส. ให้กลายเป็นเสียงข้างมากสองสภารวมกัน หรือ 376 เสียงนั้นยาก ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ การเป็นเสียงข้างมากของสภาผู้แทนฯ เท่านั้น โดยทั้งพรรคการเมือง และนักวิชาการ แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย เนื่องจากไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลกระทบเสียหายต่อการบริหาร ทำลายหลักการประชาธิปไตย ก่อให้เกิดปัญหาตามมาไม่จบสิ้น สมาชิกสองสภา จึงพึงต้องพิจารณาไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ในการให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี หากไม่ดำเนินการตามผลการเลือกตั้ง ที่สะท้อนความต้องการของประชาชนเจ้าของประเทศ จะเกิดผลดี หรือผลเสียขึ้นตามมา ในระบอบที่ตัดสินด้วยเสียงประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image