นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าภายหลังรับมอบภารกิจแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ในการหาเสียงสนับสนุนทั้งจากพรรคการเมืองนอกกลุ่มพรรคร่วมเดิม และสมาชิกวุฒิสภา พบว่านโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงเป็นเงื่อนไขหลัก ขณะที่บางพรรคและบางคนแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งที่จะไม่สนับสนุนการร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกลในทุกกรณี ในสถานการณ์เช่นนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษาหารือกับพรรคก้าวไกล ขอถอนตัวจากการร่วมมือกันและเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการโหวตเลือกวันที่ 4 สิงหาคม ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ขอยืนยันชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วม และทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเป็นต้นเหตุของความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ เริ่มจากมติ ครม.ในการประชุมครั้งแรก ให้มีการทำประชามติ และจัดตั้ง ส.ส.ร.ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ รัฐบาลจะคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นอกจากนี้ยังพร้อมผลักดัน นโยบายที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมได้นำเสนอต่อประชาชน ซึ่งมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน อาทิ กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายสุราก้าวหน้า การปฏิรูป ตำรวจ กองทัพและกระบวนการยุติธรรม
พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ร่วมลงนามเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ แต่ที่ประชุมร่วมสองสภาไม่เห็นชอบเป็นนายกฯ ตามเจตจำนงประชาชนผ่านผลเลือกตั้ง เนื่องจากแม้เป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ แต่ ส.ว.ที่มีหน้าที่ อำนาจร่วมโหวตเลือก ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ไม่เห็นชอบ และยังตั้งเงื่อนไขกับพรรคก้าวไกลอย่างไม่ลดเลิก แม้ส่งไม้ต่อเพื่อไทยนำจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็ตาม เรื่องพรรคเพื่อไทยแยกทางพรรคก้าวไกลคงเป็นหัวข้อหนึ่งของการถกแถลง ที่มีพื้นฐานข้อเท็จจริงรองรับ แต่สำหรับเส้นทางใหม่ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยนั้น การจัดวาระเร่งด่วน โดยให้ความสำคัญกับการผลักแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นต้นตอปัญหา โดยกระบวนการที่ประชาชนยอมรับ เมื่อแล้วเสร็จจะคืนอำนาจจัดเลือกตั้งใหม่ ถือเป็นอีกทางออก ลดแรงกดดันที่เกิดจากความคาดหวังต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของประชาชน จึงเป็นภาระหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วง ปลดล็อกโซ่ตรวนพันธนาการถ่วงรั้งประเทศไทย โดยไม่มีข้อแม้ ตามคำมั่นสัญญา คำแถลงการณ์ต่อประชาชน
