พรีวิว ยูโร 2020 : ‘สิงโตคำราม’ ปะทะ ‘เช็ก’ ใครชนะซิวแชมป์กลุ่ม!
“สิงโตคำราม” อังกฤษ จะพบกับ สาธารณรัฐเช็ก ในศึก “ยูโร 2020” รอบแรก กลุ่มดี นัดสุดท้าย ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คืนวันที่ 22 มิถุนายน เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 23 มิถุนายน) ถ่ายทอดสดทางช่อง 3เอชดี (หมายเลข 33)
จากผลงานชนะ 1 เสมอ 1 ของทั้งสองทีม ทำให้การันตีในการจบท็อป 3 ของกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่จะลุ้นว่าเข้ารอบในอันดับใด หรือต้องไปวัดอันดับ 3 ที่ดีที่สุดกับอีก 5 กลุ่มที่เหลือ อยู่ที่ว่าทั้งสองทีมนี้จะเลือกว่าอยากจบอันดับใด โดยที่ถ้าจบอันดับ 1 จะได้ลงเล่นที่สนามเวมบลีย์ต่อ แต่ถ้าเป็นอันดับ 2 จะต้องโยกไปเตะที่กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
สาธารณรัฐเช็ก
เสมอ โครเอเชีย 1-1 (ยูโร 2020)
ชนะ สกอตแลนด์ 2-0 (ยูโร 2020)
ชนะ แอลแบเนีย (เหย้า) 3-1 (อุ่นเครื่อง)
แพ้ อิตาลี (เยือน) 0-4 (อุ่นเครื่อง)
แพ้ เวลส์ (เยือน) 0-1 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
อังกฤษ
เสมอ สกอตแลนด์ 0-0 (ยูโร 2020)
ชนะ โครเอเชีย 1-0 (ยูโร 2020)
ชนะ โรมาเนีย (เหย้า) 1-0 (อุ่นเครื่อง)
ชนะ ออสเตรีย (เหย้า) 1-0 (อุ่นเครื่อง)
ชนะ โปแลนด์ (เหย้า) 2-1 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
สถิติการพบกัน
อังกฤษ เคยดวลกับ สาธารณรัฐเช็กมาทั้งหมด 18 ครั้ง และทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ถึง 11 ครั้ง เสมอ 4 และแพ้ไปแค่ 3 หน ซึ่งทั้งสองทีมเพิ่งอยู่กลุ่มเดียวกันในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา อังกฤษเอาชนะได้ในบ้านได้ 5-0 แต่บุกไปแพ้ที่กรุงปราก 1-2 อย่างไรก็ตามถ้านับเฉพาะเล่นในอังกฤษแล้ว เช็กยังไม่เคยบุกมาเอาชนะได้เลยแม้แต่หนเดียว
สภาพทีม
สาธารณรัฐเช็ก สามารถหาทีมที่ลงตัวได้แล้วใน 2 เกมที่ผ่านมา ทั้งคู่เซนเตอร์อย่าง ออนเดร เชลุสต์ก้า กับ โทมัส คาลาส ขณะที่แดนหน้าพาทริค ชิก จะได้ลงสนามต่อไปเพื่อโอกาสในการลุ้นตำแหน่งดาวซัลโว อยู่ที่กองกลางว่าจะหาใครมาจับคู่กับ โทมัส ซูเช็ก ระหว่าง โทมัส โฮเลช หรือ อเล็กซ์ คราล
ฝั่งอังกฤษ หลังจากโดนแฟนบอลโห่อย่างหนักในนัดที่ผ่านมาทำให้อาจจะมีการปรับทัพด้วยการส่งทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาคุมเกมในสนามบ้าง ขณะที่ฟิล โฟเด้น ซึ่งมีใบเหลืองติดตัว จะได้พักในนัดนี้แล้วให้แจ็ค กรีลิช ลงมาเล่นแทน แต่ตำแหน่งกองหน้ายังคงเป็นพื้นที่ของ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมเช่นเคย
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สาธารณรัฐเช็ก : โทมัส วัซลิก, วลาดิเมียร์ คูฟาล, ออนเดร เชลุสต์ก้า, โทมัส คาลาส, แยน บอริล, โทมัส ซูเช็ก, โทมัส โฮเลช, ลูคัส มาโซปุสต์, วลาดิเมียร์ ดาริด้า, ยาคุบ ยังก์โต้, พาทริก ชิก
อังกฤษ : จอร์แดน พิกฟอร์ด, ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุก ชอว์, ดีแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เมสัน เมาท์, แจ็ค กรีลิช, มาร์คัส แรชฟอร์ด, แฮร์รี่ เคน
สรุป
คู่นี้ต้องบอกว่าวิเคราะห์ได้ยาก เนื่องจากมันมีสถานการณ์ในรอบต่อไปมาชี้วัด เพราะถ้าหากใครเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม จะต้องเจองานหนักคือรองแชมป์จากกลุ่มเอฟ ที่อาจจะเป็นฝรั่งเศส หรือโปรตุเกสก็ได้ ฉะนั้นอาจจะไม่มีใครอยากได้แชมป์กลุ่มกันเท่าไหร่
แต่ถ้าจะให้เล่นแบบรอแพ้ ก็เชื่อว่าไม่มีใครยอมทำเช่นกัน เพราะอาจจะตกไปอยู่อันดับ 3 ที่เจองานหนักกว่าเดิมได้ด้วย สุดท้ายอาจจะเล่นกันเต็มที่ แต่จบลงด้วยการเสมอกันไป อย่างน้อยยังเชื่อว่าสิงโตคำรามไม่แพ้ในบ้านแน่นอน
สกอร์ที่คาด : สาธารณรัฐเช็ก เสมอ อังกฤษ 0-0
