พรีวิว ยูโร 2020 : ตัดเชือกคู่แรก! ‘อัซซูรี่’ ปะทะเดือด ‘กระทิงดุ’

พรีวิว ยูโร 2020 : ตัดเชือกคู่แรก! ‘อัซซูรี่’ ปะทะเดือด ‘กระทิงดุ’

“อัซซูรี่” อิตาลี จะพบกับ “กระทิงดุ” สเปน ในศึกยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คืนวันที่ 6 กรกฎาคม เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 7 กรกฎาคม) ถ่ายทอดสดทางเอ็นบีที เอชดี2

ทีมอัซซูรี่ในยุคใหม่ที่ไม่ได้เน้นการตั้งรับเหมือนเดิม แต่มาด้วยเกมรุกสุดเอนเตอร์เทน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่รอบแรก รวมถึงต่อเวลาชนะออสเตรีย และล้มเบลเยียม ไปได้ ขณะที่สเปนแม้จะออกสตาร์ตกระท่อนกระแท่น แต่ก็พาตัวเองเข้าถึงรอบตัดเชือกได้สำเร็จ จากการต้องต่อเวลาพิเศษถึง 2 รอบติดกัน โดยเฉพาะรอบล่าสุดที่ดวลจุดโทษชนะสวิตเซอร์แลนด์มาได้

อิตาลีเข้าถึงรอบตัดเชือกเป็นครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ทีม โดย 4 ครั้งที่ผ่านมา 1968 ทอยเหรียญชนะสหภาพโซเวียต, 1988 แพ้ สหภาพโซเวียต 0-2, 2000 ดวลจุดโทษชนะเนเธอร์แลนด์ 3-1 และล่าสุดในปี 2012 ชนะเยอรมนีไปได้ 2-1 ทว่า 2 ครั้งหลังพวกเขาพลาดแชมป์ทั้งสองครั้ง

ส่วนสเปน เป็นการเข้ารอบตัดเชือกครั้งที่ 5 เช่นกัน และยังไม่เคยพลาดในรอบนี้แม้แต่ครั้งเดียว โดยในปี 1964 ต่อเวลาชนะฮังการี 2-1, 1984 ชนะจุดโทษ เดนมาร์ก 5-4, 2008 ชนะรัสเซีย 3-0 และล่าสุดในปี 2012 ชนะจุดโทษโปรตุเกส 4-2 โดยคว้าแชมป์ได้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน

Advertisement

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
อิตาลี
ชนะ เบลเยียม 2-1 (ยูโร 2020)
ชนะต่อเวลา ออสเตรีย 2-1 (ยูโร 2020)
ชนะ เวลส์ 1-0 (ยูโร 2020)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์​ 3-0 (ยูโร 2020)
ชนะ ตุรกี 3-0 (ยูโร 2020)

สเปน
เสมอ สวิตเซอร์แลนด​์ 1-1 (จุดโทษ 3-1) (ยูโร 2020)
ชนะต่อเวลา โครเอเชีย 5-3 (ยูโร 2020)
ชนะ สโลวาเกีย 5-0 (ยูโร 2020)
เสมอ โปแลนด์ 1-1 (ยูโร 2020)
เสมอ สวีเดน 0-0 (ยูโร 2020)

สถิติการพบกัน
ทั้งสองทีมมีสถิติการเจอกันที่สูสีอย่างมาก เจอกันมาทั้งหมด 37 ครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะไปคนละ 11 ครั้ง และเสมอกันไปอีก 15 ครั้งด้วยกัน ล่าสุดเจอกันในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก เสมอกันที่เมืองตูริน 1-1 ก่อนที่สเปนจะเปิดบ้านชนะได้ 3-0

Advertisement

ขณะที่การพบกันครั้งนี้นับเป็นการเจอกันในทัวร์นาเมนต์ยูโร รอบสุดท้าย เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน 2 ครั้งแรกในยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศ และนัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2012 สเปนเป็นฝ่ายชนะได้ทั้งหมด ก่อนที่ล่าสุดในยูโร 2016 รอบ 16 ทีมสุดท้าย จะเป็นฝั่งอิตาลีที่เอาชนะได้บ้าง 2-0

สภาพทีม
ความพร้อมเกมนี้ อัซซูรี่ จะไม่มีแบ๊กซ้ายตัวเก่ง เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ที่ได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าฉีกขาดในเกมกับเบลเยียม ซึ่งต้องพักนาน 6 เดือน โดยเอแมร์สัน แบ๊กจากเชลซี จะรับหน้าที่แทน ส่วนผู้เล่นอื่นๆ ยังถือว่าสมบูรณ์ แนวรุกใช้ 3 ประสานชุดเดิม ลอเรนโซ่ อินซินเญ่, ชิโร่ อิมโมบิเล่ และเฟเดริโก้ เคียซ่า

ส่วนทางฝั่งสเปนลงเล่น 120 นาทีมา 2 เกมติดต่อกัน จะไม่สามารถใช้งานปาโบล ซาราเบีย ปีกตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมล่าสุดได้ โดยจะเป็นเคราร์ด โมเรโน่ หรือดานี่ ออลโม่ ที่จะได้ลงเล่นแทน ขณะที่แนวรับ อีริค การ์เซีย จะได้กลับมาจับคู่กับ อายเมอริค ลาปอร์ต อีกครั้ง

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อิตาลี : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ คิเอลลินี่, เอแมร์สัน, จอร์จินโญ่, นิโคโล่ บาเรลล่า, มาร์โก้ แวร์รัตติ, เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซินเญ่

สเปน : อูไน ซิมอน, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อีริค การ์เซีย, อายเมอริค ลาปอร์ต, ฆอร์ดี้ อัลบ้า, เซร์คิโอ บุสเกตต์, โกเก้, เปดรี้,  เฟร์ราน ตอร์เรส, อัลบาโร่ โมราต้า, เคราร์ด โมเรโน่

สรุป
ทั้งสองทีมมีสไตล์การเล่นที่ค่อนข้างคล้ายกันอย่างมาก คือเน้นเพรสซิ่งแดนบนเพื่อแย่งกันครองบอล ดังนั้นจุดสำคัญอยู่ที่ว่าใครจะสามารถคุมเกมได้เหนือกว่าใคร ส่วนเรื่องของพละกำลังคงไม่ต่างกันมากนัก ถึงสเปนจะเล่น 120 นาทีมาทั้งสองเกม แต่อิตาลีเองก็ทุ่มพลังไปไม่น้อยในการเจอกับเบลเยียมมา

บางทีเกมนี้อาจจะตัดสินกันที่ความเฉียบคมเล็กๆ น้อยๆ ที่มองว่าชุดนี้อิตาลีดูเหนือว่าหน่อยๆ เพราะแสดงให้เห็นมาตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ว่าพวกเขายังไม่ตกม้าตายอะไรง่ายๆ ในขณะที่สเปนชุดนี้ข้อผิดพลาดเยอะเกินไป แดนหน้าก็ไม่คม ใช้โอกาสกันเปลืองสุดๆ

ฉะนั้นยังเชื่อใจอิตาลีชั่วโมงนี้ว่ามีดีกว่า และจะเอาชนะไปได้

สกอร์ที่คาด : อิตาลี ชนะ สเปน 2-1

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image