‘เดอ บรอยน์’ เปลี่ยนเกม! ยิง 1 จ่าย 1 ‘เบลเยียม’ แซง ‘โคนม’ 2-1 ลิ่ว 16 ทีม
“ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม พลิกสถานการณ์เอาชนะ “โคนม” เดนมาร์ก 2-1 ในการแข่งขันฟุตบอล “ยูโร 2020” รอบแรก กลุ่มบี นัดที่ 2 ที่ปาร์เก้น สเตเดียม กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน
เดนมาร์กนั้นพ่ายให้กับฟินแลนด์มา 0-1 ทำให้ต้องมีคะแนนจากเบลเยียมหากหวังเข้ารอบต่อไป ส่วนเบลเยียมที่ชนะรัสเซียมา 3-0 ในเกมแรก ถ้าชนะนัดนี้จะผ่านเข้ารอบต่อไปทันที
โดยในเกมนี้ แฟนบอลทั้งฝั่งของเดนมาร์กและเบลเยียม ต่างมีป้ายผ้ามาให้กำลังใจ คริสเตียน อีริกเซ่น จอมทัพทีมชาติเดนมาร์ก ที่หมดสติในสนามในเกมนัดแรกกับฟินแลนด์ ในขณะที่ช่วงเริ่มเกมได้มีการเปิดเพลง You’ll Never Walk Alone เพื่อให้กำลังใจอีริกเซ่นด้วย
นอกจากนี้ระหว่างแลกธงนั้น ทางฝั่งของเบลเยียมได้มอบของพิเศษให้กับคริสเตียน อีริกเซ่น ด้วยการมอบเสื้อทีมชาติเบลเยียม ที่ติดเบอร์ 10 และชื่อคริสเตียน พร้อมกับลายเซ็นต์ของนักเตะทุกคนในทีมมอบให้
เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น เดนมาร์ก ก็มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่เบลเยียมจ่ายบอลพลาดตรงหน้าประตูตัวเอง ก่อนที่ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก จะตัดบอลได้ก่อนจ่ายให้ยุสซุฟ โพลเซ่น ซัดเรียดเข้าประตูไป ให้เดนมาร์กขึ้นนำ 1-0
โดยประตูของโพลเซ่นนั้น ถูกบันทึกให้เป็นประตูที่เร็วที่เป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ใช้เวลาเพียง 99 วินาที ส่วนสถิติเร็วที่สุดนั้นเป็นของดมิทรี คิริเชนโก้ จากรัสเซีย ที่ทำไว้ในเกมกับกรีซ เมื่อปี 2004
จากนั้นในนาทีที่ 10 ฝั่งเบลเยียมนั้นเตะบอลออกข้างสนามให้ ก่อนที่ทั้งสนามจะยืนปรบมือเพื่อเป็นกำลังใจให้กับอีริกเซ่น เนื่องจากว่าเป็นเบอร์ประจำตัวของจอมทัพทีมชาติเดนมาร์กนั่นเอง
เบลเยียมยังไม่สามารถตั้งเกมของตัวเองได้และเป็นฝ่ายเดนมาร์กที่ครองบอลบุกมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ต่างฝ่ายทำประตูเพิ่มเติมกันไม่ได้ จบครึ่งแรก เดนมาร์กนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือเบลเยียมปรับทัพทันทีด้วยการส่ง เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพตัวเก่งลงมา
ก่อนจะมาประสบความสำเร็จได้ประตูตีเสมอ ในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่โรเมลู ลูกากู กระชากขึ้นมาทางขวา จ่ายให้เดอ บรอยน์ ในกรอบเขตโทษก่อนหลอกหลังเดนมาร์กทั้งแผงด้วยการจ่ายไปให้ธอร์กัน อาซาร์ ที่เติมขึ้นมายิงโล่งๆ เข้าประตูไป เบลเยียม ตีเสมอ เดนมาร์ก เป็น 1-1
แล้วเบลเยียมก็มาพลิกนำได้สำเร็จในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่สองพี่น้องอาซาร์ เอเด็น-ธอร์กัน ทำชิ่งกันหน้าประตู ก่อนจะจ่ายฉีกออกมาให้เดอ บรอยน์ ที่เติมขึ้นมา ยิงเข้าเสาแรกผ่านมือแคสเปอร์ ชไมเคิ่ลเข้าประตูไปให้ทีมขึ้นนำ 2-1
เดนมาร์กบุกหวังทวงประตูคืนบ้างและเกือบตีเสมอได้จากจังหวะยิงของ มาร์ติน เบรธเวต แต่ติดเซฟของธิโบต์ กูร์ตัวส์ ขณะที่จังหวะสวนกลับมา เดอ บรอยน์ ก็ได้จังหวะยิงเช่นกัน แต่ตรงตัวของชไมเคิ่ล
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 เดนมาร์กน่าจะได้ประตูตีเสมออย่างมาก จากจังหวะที่ธอร์กัน อาซาร์ พลาดโดนตัดบอลได้ ก่อนที่ อันเดรียส สคอฟ โอลเซ่น จะเปิดข้ามาให้ เบรธเวต ได้โหม่ง แต่บอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นไม่มีการทำประตูกันเพิ่มเติม จบเกม เบลเยียม ชนะ เดนมาร์ก 2-1
สรุปสถานการณ์ในกลุ่มบี เบลเยียม มี 6 คะแนนเต็ม ตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อย ตามมาด้วย ฟินแลนด์ ที่มี 3 คะแนน และ รัสเซีย 3 คะแนน ส่วนเดนมาร์ก ยังไม่มีคะแนน โอกาสตกรอบสูงมาก
เกมนัดสุดท้ายจะลงเล่นพร้อมกัน เบลเยียม พบ ฟินแลนด์ ส่วน เดนมาร์ก เจอกับ รัสเซีย
