| ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์ |
| เผยแพร่ |
ปัญหาเรื่องประชากรที่ลดจำนวนลงอย่างมาก ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับประเทศ “ญี่ปุ่น” โดยเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา จำนวนประชากรในญี่ปุ่นลดลงอย่างมาก และอัตราการเกิดก็ลดน้อยลงต่ำที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กระนั้นก็ตาม ยังมีเมืองๆหนึ่งของญี่ปุ่น ที่มีความพยายามในการกระตุ้นให้ผู้คนหันมามีลูกกันเยอะๆ นั่นคือ เมือง “นางิ”
เรื่องนี้ ซีเอ็นเอ็นได้เขียนเป็นรายงานนำเสนอเอาไว้ เป็นเรื่องของเมืองนางิ ที่พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้คนหันมามีลูกกัน ยิ่งมากยิ่งดี เพราะจะมีสวัสดิการให้เพียบ รวมทั้งเงินสดก้อนโต
เมืองนางิ มีประชากรอยู่ราว 6,000 คนเท่านั้น เป็นเมืองที่เงียบสงบ และไม่ได้หนาแน่นเหมือนกับหลายเมืองของญี่ปุ่น จึงดูจะเป็นเมืองที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากแต่ดูเหมือนว่า สภาพความเป็นอยู่ดังกล่าว ดูจะไม่ได้ดึงดูดให้ผู้คนมาอาศัยอยู่และมีลูกกัน
ดังนั้น ทางการนางิ จึงได้มีนโยบาย มอบเงินให้แก่คู่สามี-ภรรยา ที่อาศัยอยู่และมีลูก โดยจะได้รับเงินก้อนใหญ่ 1 ก้อน 100,000 เยน เมื่อมีลูกคนแรก แต่ถ้ามีลูกคนที่สอง ก็รับไปอีก 150,000 เยน และถ้ามีลูกถึง 5 คน ก็จะได้รับเงินถึง 400,000 เยน
นโยบายมอบเงินให้แก่ครอบครัวที่มีลูกนี้ เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2004 รวมไปถึงผลประโยชน์อื่นๆเพิ่มเติมสำหรับผู้เป็นพ่อแม่ เพื่อเป็นการกระตุ้นอัตราการเกิดให้มากขึ้น ท่ามกลางกระแสการเกิดที่น้อยลง และสังคมที่กลายเป็นสังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่น
ซึ่งผลประโยชน์ที่พ่อแม่จะได้รับเมื่อมีลูก เช่น การได้รับเงินช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัย การให้ลูกได้รับวัคซีนต่างๆฟรี การเข้าโรงเรียน การจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูที่น้อยลง รวมไปถึงมีบ้านรับเลี้ยงเด็กให้ด้วย
ด้วยการพูดกันแบบปากต่อปาก เกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นการมีลูกของเมืองนางิ ทำให้มีพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นหลายครอบครัว ย้ายไปอยู่ที่เมืองนางิ เพื่อมีลูกและเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ที่เมืองนี้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงลูก ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ และยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมายจากภาครัฐ
เมื่ออะไรๆก็ดี พ่อแม่ไม่เครียดเรื่องเงิน เด็กๆก็จะมีความสุข ครอบครัวก็จะมีความสุข
