บอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ มีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนต่อไป ต่อจากนางเทเรซา เมย์ ที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษไปโดยปริยาย
เวลานี้ จอห์นสัน นักการเมืองผู้สนับสนุน “เบร็กซิท” ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องการเล่นมุกตลก การพูดไม่ถูกกาลเทศะ และเสียมารยาทในหลายกรณี กำลังอยู่ในกระบวนการชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งจะปรากฏผลเป็นที่สิ้นสุดในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้
จอห์นสัน ลูกชายครอบครัวชนชั้นกลางมีฐานะดีชาวอังกฤษ เกิดในนครนิวยอร์ก เมื่อปี 1964 ผู้ที่มีความฝันวัยเด็กตามคำบอกเล่าของพี่สาว “ราเชล” ว่าอยาก “ครองโลก” รายนี้ ถือเป็นแกนนำคนสำคัญในการรณรรงค์ เบร็กซิท เมื่อปี 2016
จอห์นสัน ให้คำมั่นในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมในครั้งนี้ว่า จะนำอังกฤษออกจากอียู ให้ทันเส้นตาย ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะมีข้อตกลงกับอียูหรือไม่ก็ตาม สร้างความกังวลให้กับชาวอังกฤษครึ่งประเทศที่ลงมติให้อังกฤษอยู่กับอียูต่อ ในการลงประชามติเมื่อ 3 ปีก่อน โดยเฉพาะเมื่อจอห์นสัน ไม่ได้ให้รายละเอียดของแผนเบร็กซิทออกมาแต่อย่างใด
จอห์นสัน เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมมาก่อนหน้านี้ แต่ก็ยอมถอนตัวเมื่อพันธมิตรทางการเมืองอย่างไมเคิล โกฟ ลงชิงตำแหน่งดังกล่าว แต่ต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ เมื่อ เทเรซา เมย์ คว้าเก้าอี้หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้สำเร็จในปี 2016
จอห์นสัน เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอีตัน โรงเรียนชั้นนำของอังกฤษ และบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เคยทำงานเป็นผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ “เดอะไทม์ส” ก่อนถูกไล่ออกด้วยวีรกรรมนั่งเทียนเขียนคำพูดของแหล่งข่าวเสียเอง ก่อนหันไปทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวประจำกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมให้กับหนังสือพิมพ์ “เดอะเดลีเทเลกราฟ” ในเวลาต่อมา และจอห์นสันก็เป็นผู้สื่อข่าวคนแรกๆที่กระพือข่าวบิดเบือนโจมตี อียู ที่เรียกโดยรวมว่า “นิยายปรัมปราอียู” อย่างเช่นกรณี “อียูแบนกล้วยโค้ง” ลักษณะของข่าวที่กลายของขาดไม่ได้ในวงการข่าวอังกฤษ
จอห์นสัน ได้รับเลือกเข้าสู่สภาครั้งแรกในปี 2001 เคยไต่เต้าจนถึงตำแหน่งโฆษกพรรค แต่ถูกไล่ออกจากตำแหน่งจากการโกหกกรณีมีสัมพันธ์นอกสมรสอันอื้อฉาว
จอห์นสัน ประสบความสำเร็จในเส้นทางการเมืองอีกครั้งในปี 2008 เมื่อได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอีกสมัยรับหน้าที่ดูแลการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในปี 2012
อดีตนายกเทศมนตรีอังกฤษกลับมาเป็นมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในปี 2015 ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในยุคนายกรัฐมนตรีเมย์
การดำรงตำแหน่งซึ่งถูกมองจากองค์กรคลังสมองด้านการต่างประเทศอย่าง “ดิชาแธมเฮาส์” ว่าเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จน้อยที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
จอห์นสัน ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในเดือนกรกฎาคม 2018 ผลจากความไม่พอใจในกลยุทธการเจรจาข้อตกลงเบร็กซิทของนางเมย์ในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม จอห์นสัน ยังคงลงคะแนนฝ่ายสนับสนุนข้อตกลงของเมย์ในเวลาต่อมา โดยระบุว่าเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้อังกฤษออกจากอียูได้
หากจอห์นสัน คว้าเก้าอี้หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งหมายถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษในครั้งนี้ได้ จอห์นสัน ยืนยันว่าจะกดดันให้อียู ยอมประณีประณอมในประเด็นชายแดนไอร์แลนด์ที่ยังคงเป็นปัญหาได้
แม้อียู จะประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะไม่มีการเปิดการหารือข้อตกลงที่ได้มีการลงนามกับนายกรัฐมนตรีเมย์ไปเมื่อปีที่แล้วอีกก็ตาม
