คอลัมน์ People In Focus: จีน่า มิลเลอร์ ฮีโร่หญิงของฝ่ายต้านเบร็กซิท

คำตัดสินที่ศาลสูงอังกฤษสั่งให้ลูกเล่นการสั่งพักสภาสามัญของนายบอริส จอห์นสัน เป็นสิ่งผิดกฎหมาย นับเป็นชัยชนะอีกครั้งของฝ่ายต่อต้านเบร็กซิท ของอังกฤษ
ผู้ที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดก็คือ “จีน่า มิลเลอร์” นักธุรกิจหญิงชาวอังกฤษวัย 54 ปี ที่เป็นโจทย์ในการฟ้องร้อง

นับเป็นชัยชนะครั้งที่ 2ในศาลของมิลเลอร์ที่มีต่อรัฐบาลอังกฤษ แล้วหลังจากเมื่อปี 2560 เธอทำให้รัฐบาลของนาง เทเรซา เมย์ อดีตนายกรัฐมนตรีต้องยื่นญัตติอภิปรายในสภา ก่อนที่จะเริ่มต้นกระบวนการเบร็กซิทอย่างเป็นทางการ

ผู้จัดการการลงทุน เชื้อสายกายอานา ระบุว่า เธอตัดสินใจเดินหน้าใช้กระบวนการทางกฎหมายในทันทีหลังจากผลการลงประชามติเรื่องเบร็กซิทเมื่อปี 2559 นั้นชัดเจน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อลูกสาววัย 11 ปีร้องขอ

“แม่จะต้องทำอะไรซักอย่าง แม่มักจะทำเสมอ”

Advertisement

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อให้รัฐสภาได้อภิปรายในเรื่องเบร็กซิทอย่างเต็มที่ ความพยายามซึ่งทำให้เธอตกเป็นเหยื่อของการขู่ฆ่ารวมไปถึงการเหยียดผิวอย่างรุนแรง

มิลเลอร์ เกิดในกายอานา ที่เวลานั้นเป็นดินแดนปกครองของอังกฤษ หลังกายอานา ได้รับอิสรภาพ พ่อของมิลเลอร์ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอัยการสูงสุดของประเทศ ขณะที่มิลเลอร์ ถูกส่งไปเรียนที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุได้ 11 ปี

หลังจากครอบครัวต้องประสบปัญหาทางการเงิน มิลเลอร์ ต้องทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานทำความสะอาดตั้งแต่ยังเรียนในโรงเรียน

Advertisement

มิลเลอร์ผ่านพ้นวิกฤตชีวิตหลังจบการศึกษา เธอตั้งบริษัทด้านการตลาดเป็นของตัวเองในช่วงทศวรรษที่ 90 ก่อนจะร่วมก่อตั้งบริษัทลงทุนอย่าง เอสซีเอ็ม ไพรเวท ขึ้นในปี 2552 โดยมิลเลอร์ มีชื่อเสียงในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อการลงทุน และกองทุนบำเหน็จบำนาญที่โปร่งใส

หลังได้รับชัยชนะในศาลครั้งล่าสุด ผู้ชุมนุมต่อต้านเบร็กซิท รวมตัวกันที่หน้าที่ทำการศาล กู่ร้องตะโกนเรียกชื่อมิลเลอร์ ราวกับฮีโร่ ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์บางรายรวมถึงคนดังของอังกฤษถึงกับเสนอให้สร้างอนุสาวรีย์ให้เป็นเกียรติกับเธอ

ด้านเคที กู้ดออล ผู้สื่อข่าวจากสกายนิวส์ถึงกับระบุว่า มิลเลอร์ เป็นผู้ที่มีอิทธิพลกับกระบวนการเบร็กซิท มากกว่าใครในอังกฤษนอกเหนือไปจากเทเรซา เมย์ อดีตนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์ เองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายสนับสนุนเบร็กซิทด้วยเช่นกัน โดยระบุว่าเธอเป็นตัวแทนของคนชั้นสูงที่ใช้ความร่ำรวยและอำนาจในการคว่ำการตัดสินใจทางประชาธิปไตยครั้งใหญ่ของอังกฤษ

“ฉันเป็นทั้งผู้หญิงที่ถูกเกลียดชังมากที่สุดในอังกฤษ ในเวลาเดียวกันกับการเป็นผู้ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยและอธิปไตยของชาติ” มิลเลอร์ระบุกับเอเอฟพีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

มิลเลอร์ยืนยันว่า เธอจะสู้ต่อไป ในฐานะที่เธอเป็นนักเคลื่อนไหวมา 20 ปีเธอคุ้นเคยกับเสียงก่นด่าเป็นอย่างดี
ไม่เฉพาะเธอที่ถูกข่มขู่คุกคาม แต่ลูกสาวของเธอก็เคยโดนข่มขู่และตั้งค่าหัว โดยผู้อยู่เบื้องหลังถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกไปเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา

“บางครั้งฉันรู้สึกหดหู่ที่ฉันอาศัยอยู่ในประเทศที่ผู้คนคิดว่า มันโอเคที่จะพูดว่า ฉันเป็นหญิงผิวสี ฉันไม่ขาวพอ มันไม่ใช่ที่ของฉัน หรือเปรียบเทียบฉันกับสัตว์”

“มันเปลี่ยนทุกๆส่วนใหญ่ชีวิตของฉัน” มิลเลอร์ระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image