คอลัมน์ แกะรอยต่างแดน : วิกฤตบน “เกาะจิงโจ้” จากไฟป่าออสเตรเลีย

pixabay

เหตุไฟป่าที่กำลังลุกลามจนยากจะควบคุม บริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย นอกจากจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ป่าที่ถูกเผาผลาญทำลายไปแล้ว ก็ยังส่งผลกระทบต่อผู้คน และชีวิตสัตว์ป่าจำนวนมาก

หนึ่งในพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุไฟป่าครั้งนี้ คือเกาะแคงการู หรือ เกาะจิงโจ้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวนอุทยานแห่งชาติ ที่มีหมีโคอาลาอาศัยอยู่ราว 50,000 ตัว และทางวนอุทยานเชื่อว่า มีหมีโคอาลาต้องตายลงเพราะไฟป่าครั้งนี้ถึงครึ่งหนึ่ง

นี่ยังไม่นับรวมที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุไฟป่าอีกจำนวนมาก

เกาะจิงโจ้ ถือเป็นเกาะใหญ่อันดับ 3 ของประเทศออสเตรเลีย รองจากแทสมาเนีย และเมลวิลล์ ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ห่างจากเมืองแอดิเลด ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 112 กิโลเมตร มีเนื้อที่กว่า 4,400 ตารางกิโลเมตร และแยกออกมาจากแผ่นดินใหญ่เมื่อราว 10,000 ปีก่อน เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น

Advertisement

เดิมทีเกาะแห่งนี้รู้จักกันในนามของเกาะ “การ์ตา” หรือเกาะแห่งความตาย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวอะบอริจิน โดยคาดว่าน่าจะอาศัยอยู่เมื่อราว 16,000 ก่อน และได้เริ่มหายสาบสูญไปเมื่อราว 2,000 ปีก่อน

โดยเมื่อปี ค.ศ.1802 “แมทธิว ฟลินเดอร์ส” นักสำรวจชาวอังกฤษ เป็นผู้ค้นพบเกาะแห่งนี้และตั้งชื่อว่า “เกาะจิงโจ้” เนื่องจากพบแต่ “จิงโจ้สีเทาตะวันตก” อาศัยอยู่เท่านั้น
ปัจจุบันเกาะจิงโจ้มีผู้คนอาศัยอยู่ราว 4,700 คน และมีอัตราการเติบโตของประชากรที่ช้าลงเรื่อยๆ หากแต่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย เนื่องจากมีชายหาดสวยงามหลายหาด

โดยแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะจิงโจ้แห่งนี้มากถึงกว่า 140,000 คน อันเนื่องมาจากความเป็นธรรมชาติของเกาะ ที่เต็มไปด้วยสัตว์ต่างๆนานา นอกจากจิงโจ้ ก็ยังมีหมีโคอาลา ที่ว่ากันว่าอาศัยอยู่ที่วนอุทยานแห่งชาติบนเกาะนี้มากถึงราว 50,000 ตัว และสัตว์อื่นๆอีกหลายสายพันธุ์

Advertisement

หากแต่ตอนนี้ เกาะแห่งนี้กำลังเผชิญกับภัยธรรมชาติรุนแรงอย่างไฟป่า ที่ยากต่อการควบคุม และชีวิตของสัตว์จำนวนมาก กำลังตกอยู่ในอันตราย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image