ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์ |
เผยแพร่ |
ห้องปฏิบัติการ ของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ของจีน กำลังตกเป็นเป้าของการหาต้นตอที่มาของ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” หรือเจ้าไวรัส ซาร์ส-โคฟ-2 ต้นตอของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลกขณะนี้
หลังจากที่วอชิงตันโพสต์ ออกมารายงานว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจจะหลุดออกมาจากห้องทดลองอู่ฮั่นโดย “ไม่ตั้งใจ”
และล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ก็ออกมาประกาศว่า ได้เห็นหลักฐานแล้วว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ มาจากห้องปฏิบัติการของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น อย่างแน่นอน
สถาบันไวรัสวิทยาแห่งนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตลาดอาหารทะเลหัวหนาน ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “ต้นตอ” ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยสถาบันแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยที่สูงที่สุดในเอเชีย คือระดับ 4 หรือ “พี4”
ห้องปฏิบัติการนี้ เรียกกันติดปากตอนนี้ว่า ห้องแล็บอู่ฮั่น ถือเป็นห้องทดลองเชื้อโรคที่ถือว่ามีความปลอดภัยในระดับสูงสุด สร้างเสร็จเมื่อปี 2015 และเริ่มเปิดใช้อย่างเป็นทางการปี 2018 สร้างขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทด้านชีวภาพของฝรั่งเศส ใช้เงินสร้างสูงถึง 300 ล้านหยวน และเป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มในการวิจัยเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ
ซึ่งรวมทั้ง “ไวรัสโคโรนา” !!
และโครงการแรกของห้องทดลองนี้คือการวิจัยเกี่ยวกับไข้เลือดออกซินเจียง
ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของสถาบันไวรัสวิทยาแห่งนี้ ระบุว่า ที่สถาบันฯแห่งนี้ เป็นศูนย์จัดเก็บไวรัสที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และมีเก็บไว้มากถึงกว่า 1,500 สายพันธุ์
ส่วนห้องปฏิบัติการ พี4 นั้น เป็นที่เก็บไวรัสร้ายแรงที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่เชื้อจากคนสู่คน อย่างเช่น “อีโบลา”
นอกจากห้องปฏิบัติการระดับ พี4 แล้ว สถาบันแห่งนี้ ยังมีห้องปฏิบัติการระดับ พี3 ด้วย ที่เปิดใช้ตั้งแต่ปี 2012
แม้ว่าจะมีการออกมากล่าวหากันมากมายว่า ห้องแล็บอู่ฮั่น เป็นที่มาของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หากแต่ทางสถาบันฯเองก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่า ไวรัสร้ายนี้ ไม่ได้มาจากห้องทดลองแห่งนี้แน่นอน
ซื่อ เจิ้งลี่ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสโคโรนาจากค้างคาว และยังเป็นรองผู้อำนวยการของห้องปฏิบัติการ พี4 อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับ หรือไวรัส ซาร์ส-โคฟ-2 ที่มาจากค้างคาว ได้ให้สัมภาษณ์กับ ไซเอนติฟิก อเมริกัน ว่า จีโนมของ ไวรัส ซาร์ส-โคฟ-2 ไม่ได้ตรงกับไวรัสโคโรนาจากค้างคาวที่ห้องแล็บแห่งนี้เคยเก็บรวบรวมและศึกษาแต่อย่างใด
ไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไร ตอนนี้ห้องทดลองนี้ ก็ตกเป็น “จำเลย” จนกว่าจะหาทางพิสูจน์ ได้ว่า ไม่ได้เป็นต้นตอของไวรัสร้ายนี้จริง