คอลัมน์ People In Focus : มุลลาห์ อับดุล กานี บาราดาร์ ว่าที่ผู้นำ ‘เอมิเรตส์อิสลามอัฟกานิสถาน’
มุลลาห์ อับดุล กานี บาราดาร์ สมาชิกกลุ่ม “ทาลิบัน” ระดับแกนนำไม่ได้ร่วมอยู่กับกองกำลังทาลิบันที่บุกยึดกรุงคาบูล แบบฉับพลันเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม “มุลลาห์ บาราดาร์” ก็ได้ชื่อว่ามีบทบาทสำคัญให้ทาลิบันสามารถก้าวมาถึงจุดนั้นได้ และยังได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้นำ “เอมิเรตส์อิสลามอัฟกานิสถาน” คนใหม่
มุลลาห์ บาราดาร์ เกิดในกลุ่มชนเผ่าปัชตุน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ในเมืองตอนใต้ของอัฟกานิสถาน เป็นสมาชิกกลุ่มทาลิบันตั้งแต่ยุคก่อตั้ง โดยในยุคที่ทาลิบันยึดครองอัฟกานิสถาน มุลลาห์ บาราดาร์ ได้ดำรงตำแหน่งถึงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกลาโหม
อย่างไรก็ตามหลังสหรัฐส่งกำลังบุกอัฟกานิสถาน มุลลาห์ บาราดาร์ เป็นผู้พาอดีตผู้นำทาลิบันหนีไปซ่อนตัวในภูเขาอันสลับซับซ้อน ก่อนจะไปตั้งฐานปฏิบัติการจากประเทศปากีสถาน
มุลลาร์ บาราดาร์ ถูกแกะรอยจากซีไอเอ และถูกจับกุมโดยหน่วยข่าวกรองปากีสถานในปี 2010 ก่อนที่อีก 8 ปีต่อมา จะได้รับการปล่อยตัวตามคำร้องขอของสหรัฐ เพื่อเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อปี 2020
มุลลาร์ บาราดาร์ ได้ร่วมหารือกับ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ 2 ครั้ง ได้คุยโทรศัพท์กับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และร่วมเดินทางไปกับตัวแทนกลุ่มทาลิบันไปเยือนรัสเซียและจีนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่นับว่าเป็นการได้รับการยอมรับจากสองชาติยักษ์ใหญ่ด้วย
สื่อต่างประเทศระบุว่า มุลลาร์ บาราดาร์ นั้นเป็นแกนนำทาลิบันสายการเมืองที่ “ทรงอำนาจแต่มีหลักการน่าเชื่อถือ” มีความสุดโต่งทางความคิดน้อยกว่าแกนนำคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามยังคงมีความเชื่อเรื่อง ญิฮาด หรือการใช้กำลังต่อสู้ศัตรูของศาสนาอิสลามอยู่
มุลลาร์ บาราดาร์ เคยระบุไว้ว่า ตนต้องการให้อัฟกานิสถาน มีเสรีภาพ เป็นอิสระ มีเอกภาพและเป็นประเทศที่พัฒนา ด้วยระบบอิสลามที่ทุกชนเผ่าและชนชาติในประเทศสามาถใช้ชีวิตได้โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติด้วยความรักและภราดรภาพ
แต่จะเป็นเช่นนั้นได้จริงหรือไม่คงต้องจับตาความเคลื่อนไหวในอัฟกานิสถานกันต่อไป