คอลัมน์ People In Focus : อับดุล ราชิด ชีร์ซัด กับการอพยพออกจากอัฟกานิสถาน

คอลัมน์ People In Focus : อับดุล ราชิด ชีร์ซัด กับการอพยพออกจากอัฟกานิสถาน

อับดุล ราชิด ชีร์ซัด อดีตล่ามแปลภาษาให้กับหน่วยรบพิเศษสหรัฐอเมริกา วัย 34 ปี เป็นหนึ่งในชาวอัฟกานิสถานหลายหมื่นคน ที่พยายามหาทางอพยพออกจากประเทศบ้านเกิด ที่กำลังจะอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มทาลิบัน

ชีร์ซัด มั่นใจว่าการอาศัยอยู่ในอัฟกานิสถานต่อไป ตัวเขา ภรรยา และลูกๆอีก 3 คนจะตกอยู่ในอันตรายจากนักรบทาลิบันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อชีร์ซัดมีประวัติทำงานกับกองกำลังต่างชาติ เคยเผชิญหน้ากับข้าศึกกลางสนามรบเคียงข้างทหารสหรัฐ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อใหญ่ๆอย่างซีเอ็นเอ็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยฮาราซา ในอัฟกานิสถาน

ข่าว สมาชิกกลุ่มทาลิบัน ลากล่ามชาวอัฟกานิสถานจากในรถ ออกมาตัดศีรษะริมถนนเมื่อเดือนพฤษภาคม ทำให้ชีร์ซัด ไม่อาจเชื่อคำพูดของกลุ่มทาลิบันที่ให้คำมั่นว่าจะไม่มีปฏิบัติการแก้แค้นกับผู้ที่เคยทำงานกับกองกำลังต่างชาติได้

ชีร์ซัด ถูกยกเลิกสัญญาเนื่องจากไม่ผ่านการทดสอบเครื่องจับเท็จ ในปี 2013 ก่อนจะถูกปฏิเสธวีซาผู้ลี้ภัยพิเศษ (เอสไอวี) ของสหรัฐเมื่อปี 2015 โดยเจ้าตัวเองก็ไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด

Advertisement

ชีร์ซัด พยายามพาครอบครัวไปที่สนามบินท่ามกลางความโกลาหลหลายครั้ง แต่ความพยายามต้องล้มเหลว ผู้คนเบียดเสียดจนทำให้ตัวเองต้องได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ลูกชายวัย 8 ขวบและ 2 ขวบ เกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งจากการถูกเหยียบกันตาย

หลังต้องกลับบ้านมาด้วยความผิดหวัง ชีร์ซัด ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันที่รู้จัก อดีตเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกัน หน่วยรบพิเศษของอังกฤษ รวมไปถึงนักข่าวซีเอ็นเอ็น และกลุ่มคนเหล่านี้ได้ช่วยกันประสานงานและยืนยันในหนังสือรับรองให้ ชีร์ซัด อพยพออกจากอัฟกานิสถานได้สำเร็จ แม้จะไม่มีเอสไอวีก็ตาม

เวลานี้ชีร์ซัด และครอบครัวเดินทางถึงสหรัฐอเมริกา แล้ววันที่ 26 สิงหาคม และนับว่าเป็นการรอดชีวิตอย่างฉิวเฉียดเพราะในวันเดียวกัน เกิดระเบิดฆ่าตัวตายใกล้กับโรงแรมที่พัก และประตูทางเข้าสนามบิน ที่ชีร์ซัด ใช้ก่อนจะอพยพพ้นจากประเทศบ้านเกิด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย

Advertisement

ชีร์ซัด วางแผนอนาคตในสหรัฐเอาไว้ว่าจะขับรถบรรทุกหาเลี้ยงชีพ แต่อีกใจก็ยังเป็นห่วงพี่น้องชาวอัฟกานิสถานอีกหลายหมื่นคนที่ต้องถูกสหรัฐทิ้งเอาไว้

และต้องเผชิญกับอนาคตดำมืด ภายใต้การปกครองของกลุ่มทาลิบันต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image