โฟกัสโลกรอบสัปดาห์ : 7 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโควิดในเกาหลีเหนือ

เอเอฟพี

โฟกัสโลกรอบสัปดาห์ : 7 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโควิดในเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือออกมาเปิดเผยว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม หลังจากโลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากว่า 2 ปี ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอน ที่สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และการล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในทันที

นี่เป็นการระบาดใหญ่หรือไม่

สำหรับเกาหลีเหนือ หนึ่งในประเทศที่มีระบบสาธารณสุขแย่ที่สุดในโลก ประชาชนส่วนใหญ่ขาดสารอาหาร ไม่มีวัคซีนต้านโควิดหรือยารักษาโควิดใดๆ และยังมีความสามารถในการตรวจหาเชื้อแค่ 1,300 คนต่อสัปดาห์ การระบาดของโควิด-19 คือหายนะของเกาหลีเหนืออย่างแท้จริง อีกหลักฐานที่ยืนยันว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นปัญหาใหญ่ของเกาหลีเหนือ คือการที่ผู้นำคิม จอง อึน ประกาศประชุมพรรคด่วน และเผยแพร่ผ่านสื่อทางการในทันที ซึ่งตามปกติแล้วจะเผยแพร่ในวันถัดไป
สถานการณ์ล่าสุด ทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า พบผู้ป่วยอาการคล้ายโควิดรวมแล้วมากถึง 524,440 ราย และเสียชีวิตแล้ว 27 ราย หลังจากประกาศพบผู้ติดเชื้อรายแรกเพียง 2 วัน

เกาหลีเหนือเตรียมรับมืออย่างไร

เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ปิดพรมแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 หลังจากมีการพบเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีน ก่อนจะตัดสินใจขับชาวต่างชาติในเกาหลีเหนือ ตั้งแต่นักการทูตไปจนถึงเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือจากนานาชาติ และสั่งห้ามการเดินทางภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่า ได้มีการออกคำสั่งให้สังหารผู้ที่แอบลักลอบเข้ามาจากจีนในทันที
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือยังยกย่องความสำเร็จของวิธีการรับมือนี้ของตนเอง โดยสื่อของรัฐเน้นย้ำถึงการต่อต้านการแพร่ระบาดทั่วประเทศ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เกาหลีเหนือจะหลีกเลี่ยงเชื้อโควิด-19 จากประเทศเพื่อนบ้าน

เชื้อโควิดมาจากไหน

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า เชื้อไวรัสอาจแพร่กระจายไปทั่วเกาหลีเหนือแล้ว เนื่องจากการจัดงานเฉลิมฉลองขนาดใหญ่ พร้อมด้วยพิธีสวนสนามสุดอลังการ ในกรุงเปียงยาง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมงานจำนวนมหาศาลที่ไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยเลย พัค วอน กอน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอีฮวา ในเกาหลีใต้ ระบุว่า “ประชาชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานนี้ และอาจพาเชื้อโรคกลับไปด้วย” หรือไวรัสอาจมาจากคนที่ลักลอบเข้าเมืองมาจากประเทศจีน หรือผ่านทางสัตว์ที่ติดเชื้อ อย่างนกหรือหมูป่า ซึ่งสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างอิสระ
แม้ว่าเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือจะระงับเส้นทางการค้าทางรางกับจีน เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีเหนือกลัวเกิดการแพร่ระบาด แต่การขนส่งทางทะเลยังดำเนินต่อไป ซึ่งลูกเรือชาวเกาหลีเหนืออาจติดเชื้อขณะพูดคุยกับลูกเรือคนอื่น ก่อนที่เชื้อไวรัสจะระบาดไปสู่พนักงานที่ท่าเรือ

Advertisement

ระบบสาธารณสุขของเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร

เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ย่ำแย่ที่สุดในโลก อยู่ในอันดับที่ 193 จากทั้งหมด 195 ประเทศทั่วโลก จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา และจากข้อมูลของทางการ การรักษาพยาบาลในเกาหลีเหนือไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่กลุ่มด้านสิทธิระบุว่า ชาวเกาหลีเหนือต้องจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ที่สำคัญบางอย่าง โดยมากจ่ายด้วยบุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในขณะที่ญาติของผู้ป่วยจำเป็นต้องซื้อยาและของใช้อื่นๆ จากตลาดมืด นายชเว จอง ฮุน นักวิจัยที่เคยเป็นแพทย์ในเกาหลีเหนือระบุว่า “รายได้ของแพทย์ไม่ได้น้อยมากนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเงินเดือนของเกาหลีเหนือ แต่การที่จะซื้อข้าวสัก 1 กิโลกรัมก็ยังยากสำหรับแพทย์อยู่ดี ส่วนแผนกไอซียูและชุดตรวจที่ซับซ้อนเป็นสิ่งที่หายากมาก และมีเฉพาะในเมืองหลวง ส่วนในพื้นที่ชนบท หรือเมืองเล็กๆ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ ไม่มีโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์สำหรับห้องไอซียูเลย”

ชาวเกาหลีเหนือแข็งแรงหรือไม่

เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารมาตลอด และเมื่อปีที่ผ่านมาสื่อทางการเกาหลีเหนือได้รายงานว่า ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตด้านอาหาร ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติเตือนว่า กลุ่มเปราะบางในเกาหลีเหนือมีความเสี่ยงที่จะอดตาย นางลินา ยุน นักวิจัยอาวุโสของฮิวแมน ไรท์ วอตช์ระบุว่า คนเกาหลีเหนือส่วนใหญ่เป็นโรคขาดสารอาหารเรื้อรัง และหลังจากที่โควิด-19 ระบาด พวกเขาแทบไม่มียาเหลือเลย อย่างไรก็ตามข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของชาวเกาหลีเหนือมีเพียงน้อยนิด แต่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า ในปี 2018 โรคที่ไม่สามารถติดต่อกันได้อย่างโรคอ้วน เป็นสาเหตุการตายของชาวเกาหลีเหนือมากถึง 84% ทั้งนี้สุขภาพของชาวเกาหลีเหนือที่ไม่แข็งแรง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อโควิด-19 อัน ชาน อิล ผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิจัยระบุว่า สุขภาพที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะอาการขาดสารอาหารที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ทำให้เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่เปราะบางต่อโควิด-19 มาก

เกาหลีเหนือต้องการความช่วยเหลือหรือไม่

ก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีเหนือได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากนานาชาติมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัคซีน จากองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือระดับโลก อย่างองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่จะส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ผ่านโครงการโคแวกซ์ และพันธมิตรที่ใกล้ชิดอย่างจีน โดยคาดว่าเป็นเพราะกังวลเรื่องผลข้างเคียง ในปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่า นายคิมจะไม่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะหากเขาขอความช่วยเหลือจะดูเหมือนว่าระบบป้องกันโรคระบาดของเกาหลีเหนือล้มเหลว และจะส่งผลกระทบต่อภาวะผู้นำของนายคิม จอง อึน อย่างไรก็ตาม นายควอน ยอง-เซ ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งเพื่อส่งวัคซีนไปให้เกาหลีเหนือแล้ว ทั้งนี้ดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า เกาหลีเหนือและเอริเทรียเป็นเพียง 2 ประเทศในโลกที่ไม่มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

Advertisement

เกาหลีเหนือจะทำอย่างไรต่อไป

ตัวเลือกของเกาหลีเหนือมีไม่มากนัก เพราะ ระบบสาธารณสุขไม่ดี ไม่มีวัคซีน ไม่มียารักษา จึงทำได้แค่ล็อกดาวน์ในเบื้องต้น นายโก มยอง-ฮยอน นักวิจัยที่สถาบันอาซานเพื่อการศึกษาด้านนโยบาย ระบุว่า “เกาหลีเหนือจะทำเหมือนประเทศจีน มาตรการป้องกันโรคระบาด การเว้นระยะห่างและการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดมากขึ้น” แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างจากจีนคือไม่มีวัคซีน และไม่มีความสามารถในการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการรักษาผู้ป่วยหนักที่น้อยนิด “ผลก็คือเกาหลีเหนือต้องเผชิญกับผู้เสียชีวิตจำนวนมาก” นายลิม อึล ชอล ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยคยองนัมระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image