| ที่มา | นสพ.มติชน รายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์ |
| เผยแพร่ |
โรงแรมบารอน ถือเป็นแลนด์มาร์คทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองอเลปโป ประเทศซีเรีย ก่อตั้งขึ้นมาโดยครอบครัวชาวอาร์เมเนีย เมื่อปี ค.ศ.1911 และทำหน้าที่คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ตั้งแต่นักผจญภัย นักเขียน กษัตริย์ นักบิน ไปจนถึงประธานาธิบดี
แต่ก็ต้องปิดให้บริการไปเมื่อ 5 ปีก่อน เพราะนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศซีเรีย เมื่อปี 2011 ที่มีการสู้รบกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด โรงแรมบารอน ธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับความมีเสถียรภาพ ความปลอดภัย ก็ต้องสั่นคลอนลง
ขณะที่ฝั่งตะวันออกของอเลปโป ถูกกลุ่มกบฏยึดครองเอาไว้ แต่ฟากฝั่งตะวันตกของเมืองเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายรัฐบาลยึดครองอยู่ และโรงแรมบารอน ก็อยู่ทางฝั่งตะวันตกของอเลปโป มีถูกถล่มทั้งจากปืนใหญ่ยิง เต็มไปด้วยผู้ลี้ภัย ขาดแคลนทั้งน้ำ อาหาร และไม่มีไฟฟ้าใช้
ที่สำคัญโรงแรมบารอน ยังอยู่ใกล้กับด่านหน้า ยิ่งทำให้ถูกระเบิดโจมตีอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่สามารถเปิดให้บริการได้อีกต่อไป
จนต้องหยุดบริการไปในปี 2012 เมื่ออเลปโปกลายเป็นหนึ่งในสมรภูมิรบอันแสนดุเดือด และไม่มีวี่แววว่าจะยุติลงได้
รูบินา ทาชเจียน ภรรยาม่ายของเจ้าของโรงแรม บอกว่า เธอมองว่า “บารอน” เป็นส่วนหนึ่งของประเทศซีเรีย มีคุณค่าทางศาสนา มีความหลากหลายทางด้านชาติพันธุ์
สามีของทาชเจียน คือ อาร์เมน มาซลูไมอัน หลานของผู้ก่อตั้งโรงแรมบารอน ได้เสียชีวิตลงเมื่อปี 2016 ทั้งที่ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงแค่ 2 ปี หลังคบหาดูใจเป็นแฟนกันมายาวนานถึง 30 ปี
ตอนนี้ โรงแรมบารอน ก็เลยตกเป็นของบรรดาน้องสาวของมาซลูไมอัน ที่ได้หนีออกจากประเทศซีเรียไปเมื่อหลายปีก่อน
ในช่วงที่อเลปโปยังเป็นสมรภูมิรบอยู่ โรงแรมบารอน ก็ทำหน้าที่เป็นที่พักพิงของบรรดาครอบครัวผู้ลี้ภัยที่หนีมาจากฝั่งตะวันออกของอเลปโป และผู้ลี้ภัยเหล่านี้ก็จะคอยช่วยกันทำความสะอาดโรงแรมให้
ในยามบ่ายที่อากาศร้อนจัด แต่ในโรงแรมก็ยังมีลมเอื่อยๆพัดโชยมาจากหน้าต่างที่แตกร้าว
วันนี้ สงครามในเมืองอเลปโปสิ้นสุดลง รัฐบาลของอัสซาดสามารถยึดเมืองคืนได้ทั้งหมด หากแต่ร่องรอยของสงคราม ก็ยังคงกระจัดกระจายอยู่ทั่วเมือง
รวมทั้งภายในโรงแรมบารอนแห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความเจ็บปวดของชาวซีเรีย ยังไม่รู้ว่า จะเปิดให้บริการอีกครั้งได้เมื่อไหร่
