| ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์ |
| เผยแพร่ |
ถือเป็นภาพแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จับมือกันเดินข้ามเขตแดนระหว่างสองเกาหลี ที่แบ่งแยกและขัดแย้งกันมานานหลายสิบปี ในการพบปะกันครั้งสำคัญระหว่างผู้นำของสองโสม
อีกหนึ่งช่วงความประทับใจที่เกิดขึ้น ในวันที่ นายคิม จอง อึน ข้ามฝั่งไปยังเกาหลีใต้ เพื่อหารือกับนายมุน ที่บริเวณหมู่บ้านปันมุนจอม เขตปลอดทหาร ที่ฝั่งเกาหลีใต้ คือการร่วมกันลงดินบนต้นสน ที่ถูกปลูกขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพระหว่างสองเกาหลี
เหตุที่เป็นต้นสน เพราะเป็นต้นไม้ที่ชาวเกาหลีนิยมมากที่สุด และยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและความรุ่งเรือง
โดยต้นสนต้นนี้ เป็นต้นที่เริ่มปลูกเพาะเมื่อปี ค.ศ.1953 เหตุที่ต้องเลือกที่ถูกปลูกขึ้นในปี 1953 เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงปีที่มีการลงนามในข้อตกลง “สิ้นสุดสงครามเกาหลี” นั่นเอง
ต้นสนต้นนี้ ถูกนำมาปลูกไว้บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ฝั่งเกาหลีใต้ และถูกปลูกขึ้นด้านข้างของเส้นทางใกล้กับแนวเส้นแบ่งเขตทหาร (เอ็มดีแอล) อีกทั้งยังปลูกใกล้กับเส้นทางที่นายชอง จู ยอง ผู้ก่อตั้งกลุ่มฮุนไดผู้ล่วงลับ ใช้เป็นเส้นทางในการใช้รถบรรทุกขนส่งวัว 1,001 ตัว ให้แก่เกษตรกรเกาหลีเหนือ เมื่อปี 1998 เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี
โดยในพิธีลงดินที่ต้นสนต้นนี้ของสองผู้นำเกาหลี เป็นการนำดินมาจากภูเขาแปกตู จากฝั่งเกาหลีเหนือ และภูเขาฮาลลา จากฝั่งเกาหลีใต้ และรดด้วยน้ำที่ได้มาจากแม่น้ำแทดง ที่ไหลผ่านกรุงเปียงยาง ของเกาหลีเหนือ และน้ำจากแม่น้ำฮัน ในเกาหลีใต้
และได้มีการทำป้ายหินสลัก ใกล้ๆกับต้นไม้ เขียนข้อความภาษาเกาหลีใต้ว่า “สันติภาพและความรุ่งเรือง ถูกปลูกขึ้นแล้ว” พร้อมกับมีลายเซ็นของสองผู้นำเกาหลี คือนายคิม จอง อึน กับมุน แจ อิน ลงชื่อวันที่ 27 เมษายน 2018 ซึ่งเป็นวันที่ทั้งสองคนร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งคาบสมุทรเกาหลีด้วยกัน
ก่อนหน้านี้ เคยมีผู้นำของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ทำพิธีลงดินต้นไม้ด้วยกันมาแล้ว คือเมื่อปี 2007 ที่นายโนห์ มู ฮยอน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในขณะนั้น ลงดินบนต้นสนร่วมกันกับนายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือในเวลานั้น ที่ช่วยกันลงดินบนต้นสน แต่เป็นต้นที่ถูกปลูกไว้ที่กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ
เมื่อยามที่ต้นไม้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ก็หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ จะเติบโตตามไปด้วย
