สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนว่าเด็ก 1,995 คนถูกจับแยกจากพ่อแม่ 1,940 คน ที่ชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ระหว่างวันที่ 19 เมษายนถึง 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากการที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำนโยบายควบคุมพรมแดนมาบังคับใช้อย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการถูกจับแยกเกือบ 1,800 ครอบครัว ที่รายงานข่าวระบุว่าเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2559 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ถึงตอนนี้ตัวเลขของเด็กที่ถูกจับแยกออกจากครอบครัวอย่างเป็นทางการอยู่ที่เกือบ 4,000 คน โดยที่ยังไม่นับรวมตัวเลขในเดือนมีนาคมและช่วงเริ่มต้นเดือนเมษายน 2561
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายเจฟฟ์ เซสชั่น รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐประกาศนโยบาย “ความอดทนเท่ากับศูนย์” ที่จะไม่ยินยอมให้มีการเข้าสหรัฐอย่างผิดกฏหมาย และจะมีการแจ้งข้อหาในคดีอาญาต่อผู้กระทำผิดซึ่งนำไปสู่การทำให้เด็กต้องถูกจับแยกออกจากพ่อแม่ โดยโฆษกของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิรายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อระบุว่า “ครอบครัวที่ถูกจับแยกนั้นพ่อแม่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนต้องการให้เราเพิกเฉยต่อกฎหมาย และอนุญาตให้ผ่านเข้าประเทศทั้งครอบครัว แต่เราไม่มีข้อยกเว้นให้บุคคลกลุ่มนี้แล้ว”
