สำนักข่าวเอพี และเอเอฟพี รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีให้ยุติการแยกเด็กลี้ภัยออกจากครอบครัว บริเวณชายแดนสหรัฐ เป็นการพลิกคำสั่งเดิมตามนโยบายแข็งกร้าวของทรัมป์ซึ่งเป็นเหตุให้มีการแยกลูกออกจากพ่อแม่ผู้อพยพที่มีก่อนหน้านี้โดยอ้างว่าเพื่อสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมาย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และถูกกดดันจากบรรดาสมาชิกพรรครีพบลิกัน เดโมแครต รวมทั้งประชาคมระหว่างประเทศ
การเปลี่ยนใจของทรัมป์ มีขึ้นหลังจากมีเด็กกว่า 2,300 คน ถูกจับแยกออกจากพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่รวมกว่า 50,000 คนที่ข้ามแดนสู่สหรัฐ นับตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไม่สามารถติดต่อกับญาติๆได้เลย
โดยทรัมป์ เปิดเผยระหว่างการลงนามในคำสั่งล่าสุดว่า สิ่งที่ต้องทำในวันนี้คือการทำให้ครอบครัวอยู่ด้วยกัน และตนไม่ได้ชอบภาพหรือความรู้สึกที่ครอบครัวต้องแยกออกจากกัน แต่ย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าวไม่ใช่การผ่อนปรนนโยบายผู้อพยพข้ามแดน เพราะแม้จะให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน แต่ชายแดนจะยังคงมีความเข้มงวดอยู่
อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่จากกรมสุขภาพและบริการสังคม (เอชเอชเอส) ที่ระบุว่า แม้จะมีคำสั่งใหม่ออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีแผนว่า เด็กๆ ที่ถูกแยกไปแล้วจะได้กลับคืนสู่อ้อมอกของพ่อแม่หรือญาติเมื่อใด
