กลุ่มสิทธิชี้ต้อง “เปลี่ยนทัศนคติ” หยุดการแต่งงานในเด็ก

The Asian Age

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านการแต่งงานในเด็ก “เกิร์ลส์ น็อท ไบลน์ด” เปิดเผยก่อนหน้าการประชุมใหญ่ที่มีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติเรื่องนี้ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลา 3 วัน เริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนว่า “การเปลี่ยนแปลงสำคัญด้านทัศนคติ” เป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุเป้าหมายการหยุดยั้งการแต่งงานในเด็กภายในปีพ.ศ.2573

ปัจจุบันมีเด็กผู้หญิงราว 12 ล้านคนที่แต่งงานก่อนอายุ 18 ปี ซึ่งบ่อยครั้งส่งผลกระทบที่ตามมาในระดับร้ายแรงด้านสุขภาพและการศึกษา และการหยุดยั้งการแต่งงานเด็กภายในปีพ.ศ.2573 เป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

นางลักษมี ซุนดาราม ผู้อำนวยการบริหารเกิร์ลส์ น็อท ไบลน์ด เปิดเผยว่า “อัตราของการแต่งงานในเด็กลดลงทุกปี แต่สิ่งที่เราต้องการเห็นคือการเร่งมือทำมากกว่านี้จากรัฐบาลและผู้บริจาค เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่ต้องปกป้องพลเมืองและเด็กผู้หญิง”

กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เปิดเผยว่าสามารถป้องกันการแต่งงานก่อนวัยอันควรได้ราว 25 ล้านรายในทศวรรษที่แล้ว โดยภูมิภาคที่มีอัตราลดลงมากที่สุดคือ เอเชียใต้ ที่ความเสี่ยงในการแต่งงานของเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีลดลงจาก 50 เหลือ 30 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

นางซุนดารามเปิดเผยว่า ความยากจนเป็นสาเหตุสำคัญของการแต่งงานในเด็ก แต่ก็มีเหตุผลอื่นด้วย อาทิ การไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาและค่านิยมของสังคมที่เพศชายเป็นใหญ่ นอกจากนี้ การแต่งงานเด็กไม่เพียงทำให้มีแนวโน้มสูงว่าเด็กผู้หญิงต้องออกจากโรงเรียน แต่ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการถูกแสวงหาผลประโยชน์ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ความรุนแรงในครอบครัวและการเสียชีวิตของเด็กแรกเกิด การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศจะช่วยหยุดการปฏิบัติเช่นนี้ได้

ข้อมูลของยูนิเซฟระบุว่า ปัจจุบันมีผู้หญิงและเด็กได้รับผลกระทบ 650 ล้านรายทั่วโลก และเตือนว่าจะมีเพิ่มอีก 150 ล้านรายเมื่อถึงปี 2573 หากการปฏิบัติดังกล่าวไม่ยุติลงในทันที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image