สำนักข่าวเอเอฟฟพีรายงานว่า เอกสารเวียนที่ส่งต่อกันในหมู่ชาติสมาชิกองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมแสดงให้เห็นว่า รัสเซียเริ่มตอบโต้ต่อการกำหนดกำแพงภาษีนำเข้าเหล็ก 25 เปอร์เซ็นต์และอะลูมิเนียม 10 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐอเมริกาบนเวทีดับเบิลยูทีโอแล้ว
ในเอกสารลงวันที่ 29 มิถุนายน รัฐบาลรัสเซียกล่าวหาสหรัฐว่าละเมิดกฎหมายการค้าระหว่างประเทศหลายข้อ และยื่นคำร้องขอ “หารือ” อย่างเป็นทางการกับรัฐบาลสหรัฐในเรื่องนี้แล้ว
“มาตรการดังกล่าว ไม่ว่าจะแยกส่วนหรือรวมกันดูเหมือนจะไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของสหรัฐภายใต้ข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ” จดหมายระบุ
ทั้งนี้ การขอหารืออย่างเป็นทางการเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายต่อหน้าของดับเบิลยูทีโอ
ย่างก้าวนี้หมายถึงรัสเซียได้เข้าร่วมกับสมาชิกที่ทรงอิทธิพลของดับเบิลยูทีโอชาติอื่น ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป (อียู) จีน อินเดีย เม็กซิโก และแคนาดา ในการต่อสู้กับนโยบายอันเป็นที่โต้แย้งอย่างสูงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ภายใต้กฎของดับเบิลยูทีโอ หากผ่าน 60 วันไปโดยไม่มีการหารือในการแก้ไขข้อพิพาท รัสเซียสามารถขอให้ดับเบิลยูทีโอตั้งคณะกรรมการแก้ข้อพิพาทซึ่งนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมายที่มีค่าใช้จ่ายสูงและยาวนาน
ด้านหอการค้าสหรัฐเปิดเผยว่า การตอบโต้นโยบายตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์จากบรรดาคู่ค้าของสหรัฐ ส่งผลให้การส่งออกของอเมริกันได้รับผลกระทบคิดเป็นมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้บริษัทท้องถิ่นอยู่ในสถานะเปราะบางในการจ้างงาน
นายโธมัส โดนาฮิว ประธานหอการค้าสหรัฐระบุว่ากำแพงภาษีคือ “ภาษีที่ทำให้สินค้าแพงขึ้นสำหรับทุกๆ คน” ขณะที่นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะได้รับแรงกระทบกระเทือนทางเศรษฐกิจ