นายแพทย์ ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลีย ที่ร่วมในปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กของตัวเอง เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พร้อมรูปของตนเองกับนายเครก ชาลเลน นักดำน้ำคู่หู และข้อความระบุ ว่า
“ผมกำลังนั่งอยู่ด้านหลังของเครื่องบิน ซี17 ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย เพื่อเดินทางกลับออสเตรเลียพร้อมกับเครก (ชาลเลน) และสมาชิกทีมจากกระทรวงต่างประเทศและการค้า สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และกองทัพออสเตรเลีย ที่น่ามหัศจรรย์
ผมรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสครั้งแรกที่จะหยุดคิดและสะท้อนเหตุการณ์ที่พิเศษเหนือธรรมดาในช่วง 8 วันที่ผ่านมา ซึ่งเครกและผมได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของทีมหน่วยปฏิบัติการทางการแพทย์ออสเตรเลีย (AUSMAT) ในปฏิบัติการกู้ภัยที่ จ.เชียงราย ตอนเหนือของประเทศไทย
ตอนที่เราเดินทางถึงที่เกิดเหตุนั้น นักดำน้ำที่อยู่ในไทย อย่างเช่น เบน เรย์เมแนนส์ และทีมสุดยอด 4 คน จากอังกฤษ (จอห์น โวลันเธน , ริค สแตนตัน , เจสัน มัลลินสัน และคริส จูเวลล์) ได้ปฏิบัติการดำน้ำที่พิเศษที่สุดผ่านแนวถ้ำทั้งหมดไปแล้ว และได้วางแนวเชือกไว้ตลอดระยะทาง ซึ่งทำให้การดำหลังจากนั้นเป็นต้นมาไปยังจุดที่ทีมฟุตบอลอยู่นั้น ไม่เพียงเป็นไปได้ แต่ยังปลอดภัยด้วย
ความพยายามและทักษะที่ใช้ในการเปิดทางครั้งนี้ ไม่สามารถที่จะลดความสำคัญลงได้ การดำน้ำตามเชือกนำที่คนอื่นวางไว้นั้นง่ายกว่าการคลำหาหนทางด้วยตัวเองมาก ริคและจอห์น ไม่เพียงพบเด็กๆ กับโค้ชที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังสื่อสารความหนักหนาสาหัสของสถานการณ์ออกไปทั่วโลก ซึ่งทำให้ความช่วยเหลือเริ่มต้นหลั่งไหลกันเข้ามา
ชาวอังกฤษทั้ง 4 คน ยังได้ปฏิบัติการดำเพื่อลำเลียงสิ่งของยังชีพไปให้ทีมนักฟุตบอลและโค้ช รวมทั้งหน่วยซีลของไทย 4 คนที่ประจำอยู่ ทำให้คนทั้งหมดสามารถเตรียมตัวเองสำหรับการกู้ภัยในท้ายที่สุด
ในเวลาเดียวกัน คนไทยและประชาคมระหว่างประเทศได้ส่งชายและหญิงเป็นจำนวนมากเพื่อจัดหาทุกอย่าง ตั้งแต่การทำอาหาร การสื่อสาร การรายงานข่าว และทีมคนงานอีกขนาดใหญ่มากเต็มถ้ำไปหมดที่ทำงานอยู่กับอุปกรณ์หลายๆ ตัน เพื่อพยายามพร่องน้ำและทำให้ปฏิบัติการดำน้ำยังคงเป็นไปได้ ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน ที่มนุษย์ต่อสู้เพื่อควบคุมพลังธรรมชาติของน้ำในหน้ามรสุม นักไต่เขาและนักโรยตัวชาวไทยได้ลงไปในปล่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจกู้ภัยและตรวจสอบสุมทุมพุ่มไม้ทุกแห่งเพื่อหาทางเข้าเพิ่มเติม ทีมขุดพยายามที่จะเจาะผ่านหินหนาเกือบ 1 กิโลเมตรเข้าไปยังจุดที่เด็กๆ อยู่ และมีตลอดระยะเวลาทั้งหมดนี้ ซีลของไทยที่กล้าหาญทั้ง 4 คน นั่งอยู่กับทีมหมูป่า ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าตัวเองก็ตกอยู่ในอันตรายมากพอๆ กับเด็กทุกคน
เมื่อดูเหมือนว่าทางเลือกอื่นๆ เป็นไปไม่ได้แล้ว การตัดสินใจที่จะว่ายน้ำนำเด็กๆ ออกมามีขึ้น และทุกคนก็เดินหน้า เมื่อเด็กๆ ออกมา นักดำน้ำชาวอังกฤษทั้ง 4 คน สนับสนุน โดยมีเครกกับผม เป็นผู้สนับสนุน อีก 3 คน (คอนเนอร์, จอช และจิม) ซึ่งเป็นนักดำน้ำของซีดีจี จากอังกฤษ และนักดำน้ำจากยุโรป (เอริ , อีวาน, คลอส กับนิกโก) แรงกดดันที่มีต่อคนเหล่านี้หนักหน่วงมาก และพวกเขาไม่เคยหยุดเลยแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อเด็กๆ และโค้ชถูกนำไปยังโถง 3 ทีมกู้ภัยของสหรัฐ, นักดำน้ำจากสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย, ออสซี่ ซีดี, นักดำน้ำจากจีน และซีลไทย และเจ้าหน้าที่แพทย์สนามของกองทัพ เข้าประเมินอาการของเด็ก จากนั้นก็หิ้วเด็กออกจากถ้ำ เพื่อไปยังโรงพยาบาลสนาม ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายต่อไปยังโรงพยาบาลที่เชียงราย เราโชคดีที่ได้ไปเยี่ยมเด็กๆ โค้ช และหน่วยซีล และทีมแพทย์และพยายาลที่น่ารักที่โรงพยาบาลก่อนเดินทางกลับ
ผมต้องการที่จะเขียนเรื่องนี้เพื่อพยายามและให้เครดิตแก่ทุกๆ คน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติการหนนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผมกับเครก กลายเป็นจุดสนใจ ในความพยายามของเราและเราต้องการที่จะให้ทุกคนตระหนักว่าในขณะที่เรากลายเป็นหน้าตาของภารกิจกู้ภัยครั้งนี้ ด้วยเหตุผลหนึ่งเหตุผลใด ทุกคนควรได้รู้ว่า บทบาทที่เรากระทำลงไป ไม่ได้มีความสำคัญมากหรือน้อยไปกว่าคนที่ส่วนร่วมอื่นๆ อีกหลายร้อย (หรืออาจจะอีกหลายพันคน) ตามที่ผมได้กล่าวว่า บทบาทในส่วนที่ผมกับเครกทำลงไปได้ถูกทำให้สูงส่งกว่าที่มันควรจะเป็น เราแค่คิดว่าตัวเราเองโชคดีที่มีทักษะบางอย่างและเราควรจะอุทิศให้กับภารกิจที่มีผลมหัศจรรย์ในครั้งนี้
ขอขอบคุณเป็นพิเศษ ไปยังศูนย์ตอบสนองอาการบอบช้ำและภาวะวิกฤตแห่งชาติ (NCCTRC) และหน่วยปฏิบัติการทางการแพทย์ออสเตรเลีย (AUSMAT), กระทรวงต่างประเทศและการค้า ออสเตรเลีย (DFAT), และเจ้าหน้าที่สถานทูตออสเตรเลียในไทย ตำรวจท่องเที่ยวไทย (ผู้ให้การคุ้มครองเรา) ผู้ประสานงานท้องถิ่น นักดำน้ำท้องถิ่น และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของ จ่าเอกสมาน กุนัน อดีตหน่วยซีล ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย
ส่วนที่บ้านเราต้องขอบคุณครอบครัวของเราในการรับมือกับสื่อ และความกังวลที่เราก่อให้เกิดขึ้น (พวกเขาคงคุ้นเคยกับอย่างหลังแล้ว ผมเกรงว่าจะเป็นอย่างนั้น) สำหรับเจ้าหน้าที่ของ MedSTAR และหน่วยรถพยาบาลออสเตรเลียใต้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนายแพทย์ เจมส์ ดูบ และแอนดรูว์ เพียร์ซ ขอบคุณทีมผู้เชี่ยวชาญวิสัญญีแพทย์พิเศษ
สุดท้ายขอบคุณผู้ที่มีความปรารถนาดีหลายพันหลายหมื่นคนทั้งจากประเทศไทยและทั่วทุกมุมโลก เราสัญญาว่าเราจะอ่านข้อความที่ส่งมาทุกข้อความ”
