แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และก่นด่าจากทั่วสารทิศถึงการประชุมซัมมิทระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำรัสเซียที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เชิญนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้เดินทางเยือนสหรัฐในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
นางซารา แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวได้ทวีตข้อความระบุว่า ขณะนี้กำลังมีการเตรียมการสำหรับการเดินทางเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีรัสเซีย โดยทรัมป์ได้สั่งการให้นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เป็นผู้ออกคำเชิญดังกล่าว
คำเชิญจากวอชิงตันถูกมองว่าเป็นความสำเร็จของประธานาธิบดีปูติน หลังจากที่เขาได้เดินทางเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 ขณะที่การเดินทางเยือนสหรัฐโดยประธานาธิบดีรัสเซียอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 เมื่อครั้งที่นายดมิทรี เมดเวเดฟ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซีย
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่าทรัมป์ได้ปฏิเสธข้อเสนอของปูตินที่ต้องการขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของรัสเซียสามารถตั้งคำถามและสอบปากคำกับพลเมืองสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายไมเคิล แมคโฟล อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียด้วย โดยโฆษกทำเนียบขาวระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวของปูตินเป็นการพูดด้วยความจริงใจ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ดีปูตินยินยอมที่จะให้ชาวรัสเซีย 12 คนที่เพิ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 เดินทางมายังสหรัฐเพื่อพิสูจน์ตัวตามข้อกล่าวหาแล้ว
