สถานทูตไทยชวนร่วมบริจาคช่วยผู้ประสบภัยเขื่อนแตกในลาว กต.เผยไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบ

REUTERS

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ออกประกาศขอเชิญชวนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก ของสปป.ลาว โดยระบุว่า ด้วยช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก สปป.ลาว ส่งผลให้สะพานที่เชื่อมต่อแขวงอัตตะปือกับแขวงจำปาสัก ได้รับความเสียหายอย่างหนักจนใช้การไม่ได้และพังลง และส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งในด้านการคมนาคมและด้านความเป็นอยู่

ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ จึงขอเชิญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุน้ำท่วมดังกล่าว ผ่านช่องทางดังนี้ 1.สถานเอกอัครราชทูตฯ บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขานครหลวงเวียงจันทน์ ชื่อบัญชี Royal Thai Embassy – Donation เลขที่บัญชี 945-1-03-115-4 (สกุลบาท) หรือสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ +66 2354 6195-6 ต่อ 111 หรือ +856 21 214 581 -3 ต่อ 111

2. แขวงอัตตะปือ เลขบัญชีสำหรับการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัย ได้แก่ บัญชีธนาคารการค้า เลขที่บัญชี 080110000058308001 (สกุลกีบ) , บัญชีธนาคารพัฒนาลาว เลขที่บัญชี 0301800100000004 (สกุลกีบ) และบัญชีธนาคารการค้า เลขที่บัญชี 080110100021371001 (สกุลดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ ผู้ประสานงานของแขวงอัตตะปือ ได้แก่ นายบุนทะมาลี หมั้นอานง หมายเลขโทรศัพท์ +856 20 9993 4099 , นายนางวัดถาวอน วงไซ หมายเลขโทรศัพท์ +856 20 5564 3462 และ นายสุลีพอน หมายเลขโทรศัพท์ +856 20 2345 4999

Advertisement

วันเดียวกันนางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งดูแลครอบคลุมพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์เขื่อนเซเปี่ยน – เซน้ำน้อย ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงบอละเวน แขวงอัตตะปือ ห่างจากเมืองปากเซ ประมาณ 80 กิโลเมตร ได้เกิดรอยแตกบริเวณสันเขื่อน ส่งผลให้มวลน้ำกว่า 5 พันล้านลูกบาศก์เมตรไหลท่วมทะลักพื้นที่ใกล้เคียง

โดยสถานกงสุลใหญ่ ยืนยันว่า ไม่พบคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ กำลังตรวจสอบและอัพเดทข้อมูลล่าสุดว่า ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุ มีคนไทยพักอาศัยจำนวนเท่าไร รู้เพียงแต่ว่า มีคนไทยไม่กี่คนพักอาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่

Advertisement

ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า บริษัทโคเรีย เวสเทิร์น เพาเวอร์ เป็นหนึ่งในบริษัทร่วมทุนในโครงการก่อสร้างเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยของลาว ซึ่งทางบริษัทและฝ่ายอื่นๆได้ส่งเฮลิคอปเตอร์และทีมกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ประสบเหตุแล้ว และว่า พลเมืองชาวเกาหลีทั้งหมด 53 คนที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างได้อพยพออกมาล่วงหน้าแล้ว

ด้านสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงระบุในสารของสำนักวาติกันว่าพระองค์ทรงทราบเรื่องการสูญเสียชีวิตของผู้คนที่น่าเศร้าเสียใจครั้งนี้แล้วและทรงได้แสดงความรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ดังกล่าวด้วย

ขณะที่กลุ่มอินเตอร์เนชั่นแนล รีฟเวอร์ส ซึ่งเป็นกลุ่มทำงานในการพิทักษ์ปกป้องแม่น้ำและสิทธิของชุมชนที่อาศัยอยู่ตามลำน้ำ ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงอันตรายอันสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับการออกแบบเขื่อนที่ไม่สามารถรับมือกับสภาพอากาศที่เลวร้ายรุนแรงได้ “สภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้และมีความสุดโต่งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศลาวและในภูมิภาคเป็นผลจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการมีระบบเตือนภัยที่ไม่เพียงพอสำหรับการก่อสร้างและดำเนินการของเขื่อน โดยสัญญาณเตือนที่มีอยู่ดูเหมือนจะทำงานช้ามากและไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอในการจะแจ้งเตือนประชาชนให้สังเกตเห็นเพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image