เมื่อวันที่ 14 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ศาลครอบครัวแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ในประเทศออสเตรเลีย มีคำวินิจฉัยตัดสินว่า นายเดวิดและนางเวนดี้ ฟาร์เนลล์ สามีภรรยาชาวออสเตรเลียที่ถูกกล่าวหาว่าทอดทิ้งน้องแกมมี ลูกชายซึ่งมีอาการดาวน์ซินโดรมไว้ให้กับหญิงชาวไทยผู้รับอุ้มบุญและให้กำเนิดทารกฝาแฝดแก่สามีภรรยาคู่นี้ต้องรับภาระเลี้ยงดูนั้น นายฟาร์เนลล์ไม่ได้ทอดทิ้งน้องแกมมีไว้ในประเทศไทย และเขายังสามารถเลี้ยงดูน้องปีปาห์ คู่แฝดเพศหญิงของน้องแกมมีต่อไปได้ แม้นายเดวิดเคยต้องคดีทำอนาจารเด็มาก่อนก็ตาม
นายสตีเฟน แทคเครย์ หัวหน้าผู้พิพากษาศาลครอบครัวรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ระบุในคำวินิจฉัยตัดสินที่มีความยาวถึง 272 หน้าว่า ตนได้ตัดสินแล้วว่าด.ญ.ปีปาห์ไม่ควรจะถูกนำตัวไปจากครอบครัวที่เธอรู้จักคุ้นเคย เพื่อไปอยู่กับผู้ที่ถือเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอโดยสิ้นเชิง และตนไม่คิดว่าเด็กจะตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายจากพ่อผู้ให้กำเนิด อีกทั้งยังมีสิ่งบ่งชี้ถึงความผูกพันธ์ที่ด.ญ.ปีปาห์มีต่อครอบครัวฟาร์เนลล์อย่างแนบแน่นด้วย ในส่วนของด.ช.แกมมีที่เติบโตขึ้นในครอบครัวในไทยนั้น เด็กไม่ได้ถูกครอบครัวฟาร์เนลล์ทอดทิ้ง แต่เป็นน.ส.ภัทรมน จันทร์บัว แม่อุ้มบุญชาวไทยที่ต้องการจะเก็บน้องแกมมีไว้เอง นอกจากนี้ ครอบครัวฟาร์เนลล์ยังไม่ได้ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนที่ตั้งขึ้นจากเงินบริจาคที่ได้รับมาเพื่อช่วยเหลือด.ช.แกมมี มาใช้จ่ายเลี้ยงดูด.ญ.ปีปาห์หรือเพื่อใช้ดำเนินการทางกฎหมายใดๆแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในคำตัดสินของศาลครอบครัวยังกำหนดเงื่อนที่ให้ด.ญ.ปีปาห์ ที่ขณะนี้อายุ 2 ขวบ อยู่ในความดูแลของครอบครัวฟาร์เนลล์ในออสเตรเลียต่อไป ซึ่งรวมถึงเงื่อนไขที่ว่านายฟาร์เนลล์จะต้องไม่อยู่กับด.ญ.ปีปาห์เพียงลำพัง และนายและนางฟาร์เนลล์จะต้องมารายงานถึงถิ่นพำนักของครอบครัวต่อกรมคุ้มครองเด็กของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียอย่างสม่ำเสมอด้วย ทั้งนี้ โดยปกติแล้วการพิจารณาคดีของศาลครอบครัวรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจะไม่มีการเผยแพร่ แต่ผู้พิพากษาแทคเครย์กล่าวว่า เขาตัดสินใจที่จะเปิดเผยคำวินิจฉัยในกรณีนี้เพื่อประโยชน์ของสาธารณชน
เอเอฟพีรายงานว่า ด้านน.ส.ภัทรมนปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆในเรื่องนี้ เพราะตนเองยังไม่ทราบรายละเอียดคำตัดสินของศาล ทั้งนี้ การอุ้มบุญเพื่อการพาณิชย์ในประเทศออสเตรเลียถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่งผลให้คู่สามีภรรยาที่มีบุตรยากแห่กันไปใช้บริการอุ้มบุญในต่างประเทศ ขณะที่ประเด็นนี้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในไทยจากกรณีของน้องแกมมีทั้งในแง่ของกฎหมายและศีลธรรม ทำให้ปีที่แล้วไทยผ่านกฎหมายห้ามชาวต่างชาติใช้หญิงไทยอุ้มบุญ
