สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมจากความกลัวที่เพิ่มขึ้นหลังจากสหรัฐเตือนว่ากำลังพิจารณาว่าจะปรับขึ้นกำแพงภาษีมากกว่า 2 เท่าต่อสินค้าหลากหลายประเภทของจีน
ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงร่วงลงหลังจากนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐย้ำในรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่าทำเนียบขาวกำลังพิจารณาปรับขึ้นกำแพงภาษี 25 เปอร์เซ็นต์ต่อสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในการตอบสนองต่อรายงานข่าวว่าสหรัฐกำลังพิจารณาย่างก้าวดังกล่าว นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนเเตือนว่า “การแบล็กเมล์และแรงกดดันของสหรัฐใช้กับจีนไม่ได้ผล”
นักลงทุนถูกปล่อยให้คาดเดาว่าวิกฤตครั้งนี้จะส่งผลอย่างไร โดยบางส่วนเป็นกังวลว่าอาจมีความสูญเสียมากขึ้นหากทั้ง 2 ฝ่ายยังคงถลำลึก แต่บางส่วนเชื่อว่าการที่นายทรัมป์เล่นบทแข็งกร้าวเป็นเพียงยุทธวิธีในการเจรจา
ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ของจีนปิดลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ขณะที่ฮ่องกงปิดร่วงลง 2.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตลาดหุ้นกรุงโซลของเกาหลีใต้ปิดลดลง 1.6 เปอร์เซ็นต์
ตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่นปิดลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ ซิดนีย์ ออสเตรเลียลดลง 0.6 เปอร์เซ็นต์ ไทเป ไต้หวันลดลง 1.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สิงคโปร์ลดลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
ด้านตลาดหุ้นยุโรปที่เพิ่งเปิดการซื้อขายภาคเช้าวันเดียวกันนั้น ตลาดหุ้นกรุงลอนดอนของอังกฤษลดลง 0.3 เปอร์เซ็นต์ ปารีส ฝรั่งเศสร่วงลง 0.4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนีลดลง 0.9 เปอร์เซ็นต์
