สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า “เดอะ นิวยอร์กไทม์ส” หนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังสัญชาติอเมริกัน ประกาศว่าจะลงทุนมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,700 ล้านบาท) ในแผนการเพื่อเพิ่มจำนวนผู้อ่านและรายได้จากช่องทางดิจิตอลนอกสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าได้จัดตั้ง “ทีมงานเพื่อขยายการเติบโตระดับนานาชาติ” ขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชื่อของนิวยอร์กไทม์สเป็นที่รู้จักของผู้อ่านทั่วโลกมากขึ้น
ข่าวระบุว่า นิวยอร์กไทม์สถือว่าเป็นสื่อที่มีทีมงานในด้านการทำข่าวใหญ่ที่สุดสำนักหนึ่งของโลก แต่ดำเนินการเปลี่ยนผ่านมาสู่ยุคดิจิตอลช้าเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเวทีการแข่งขันระดับโลกที่สำนักข่าวชั้นนำที่มีความพร้อมด้านเว็บไซต์เท่านั้นเป็นผู้นำการเติบโตในตลาด
“การเติบโตในระดับนานาชาติถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดลำดับต้นๆ ของบริษัทและเป็นเส้นทางการก้าวไปข้างหน้าของเรา” แถลงการณ์ของนิวยอร์กไทม์สระบุ
“เดอะ นิวยอร์กไทม์สมีความภาคภูมิใจมาอย่างยาวนานในเรื่องของคุณภาพและการนำเสนอข่าวเชิงลึกในการทำข่าวต่างประเทศและสามารถดึงดูดผู้อ่านจากทั่วโลกได้หลายสิบล้านคน” แถลงการณ์ระบุ และว่า “แต่รายงานข่าวบนดิจิตอลของเราโดยหลักๆ แล้ว ออกแบบและจัดทำขึ้นเพื่อผู้อ่านในสหรัฐเป็นหลัก ทำให้เรายังไม่ใกล้เคียงที่จะตระหนักถึงความสามารถในการดึงดูดผู้อ่านนอกสหรัฐ”
แถลงการณ์ระบุว่า นิวยอร์กไทม์สจะ “เสาะหาหนทางสู่ความเป็นผู้นำเว็บไซต์ข่าวและบทวิเคราะห์ในระดับโลก และจะลงทุนมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 3 ปีต่อจากนี้เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายนั้น”
ทั้งนี้ นิวยอร์กไทม์สเพิ่งจะออกฉบับภาษาสเปนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ทีมผู้บริหารได้บอกใบ้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่านั้นเพื่อเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์มาสู่ดิจิตอล
ข่าวระบุว่า ในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว บริษัท เดอะ นิวยอร์กไทม์ส ระบุว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 51.7 ล้านดอลลาร์ จาก 34.9 ล้านดอลลาร์เมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 444.7 ล้านดอลลาร์
ในส่วนของจำนวนของผู้อ่านที่จ่ายเงินบอกรับเป็นสมาชิกของฉบับดิจิตอลเพิ่มขึ้น 53,000 ราย มาอยู่ที่ 1,094,000 ราย คิดเป็นเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
