สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ตำรวจไมอามีเปิดเผยว่า นายนิโคลัส ครูซ วัย 19 ปี ผู้ก่อเหตุกราดยิงในโรงเรียนพาร์คแลนด์ ฟลอริดา เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ให้การกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า มีเสียงของปีศาจเข้ามาในหัวสั่งให้ “เผา ฆ่า ทำลาย”
โดยตำรวจเปิดเผยว่า ระหว่างการพูดคุยกันระหว่างนายครูซกับเจ้าหน้าที่สอบสวน เจ้าหน้าที่สอบสวนได้มอบน้ำแก้วหนึ่งให้แต่ครูซกลับบอกว่า ตนไม่สมควรจะได้รับน้ำดื่มดังกล่าว ก่อนจะบ่นกับตัวเองว่า “ฆ่าผม ฆ่าผมเสีย” และกล่าวว่า มีเสียงของปีศาจอยู่ในหัว บอกให้ไปซื้ออาวุธ ฆ่าสัตว์ และทำลายทุกสิ่งตามที่บอก ให้เผา ฆ่า ทำลาย โดยครูซยังระบุด้วยว่า พยายามที่จะฆ่าตัวตายก่อนก่อเหตุราว 2 เดือน หลังจากแม่เสียชีวิตลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 เนื่องจากกินยาระงับความปวดเข้าไปเกินขนาด
ครูซบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า สองปีก่อนหน้านี้ เขาพยายามที่จะฆ่าตัวตายมาแล้วเช่นกัน แต่ไม่สำเร็จ โดยเหตุผลที่จะฆ่าตัวตาย เนื่องจากเกิดความรู้สึกหดหู่ ไม่มีเพื่อน และรู้สึกโดดเดี่ยว เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่า เหตุใดจึงตัดสินใจซื้อปืนเออาร์-15 ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติที่ใช้ในการกราดยิง ครูซตอบว่า เพราะมัน “ดูดี” โดยปืนที่ครูซซื้อนั้น เป็นการซื้อที่ถูกต้องตามกฎหมาย
