สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ตนเองเข้าสู่สถานการณ์ถกเถียงกับนางโอมาโรซา มานิกอลต์ นิวแมน อดีตผู้ช่วยของเขา ที่เป็นการป้ายสีกันที่จุดชนวนให้เกิดความกลัวว่าจะก่อความวุ่นวายในทำเนียบขาวและสร้างความกังขาต่อคำมั่นสัญญาของเขาว่าจะจ้างแต่ “คนที่ดีที่สุด”
นางมานิกอลต์ นิวแมน ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการเรียลิตี้โชว์ “ดิ แอพเพรนทิซ” ของนายทรัมป์ หลังจากนั้นได้งานเป็นเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่มีรายได้ 180,000 ดอลลาร์ต่อปี ได้เผยแพร่บันทึกเสียงการสนทนาส่วนตัวระหว่างเธอกับนายทรัมป์ที่เธอบันทึกไว้หลังจากถูกไล่ออก
บันทึกเสียงการสนทนาของอดีตผู้ช่วยของนายทรัมป์วัย 44 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตรกันซึ่งไม่พอใจอย่างรุนแรง แสดงให้เห็นถึงการละเมิดความเชื่อใจของประธานาธิบดีสหรัฐอย่างร้ายแรงที่น่าตกตะลึงอีกครั้งหนึ่ง และมีขึ้นในช่วงคืนก่อนหน้าที่เธอจะออกวางจำหน่ายหนังสือ “อันฮินจ์” ที่เป็นการเล่าเรื่องราวทั้งหมดของเธอ
รายการ “ทูเดย์” ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ออกอากาศเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เผยแพร่บันทึกบทสนทนาดังกล่าวที่นายทรัมป์อ้างว่าไม่รู้ว่าเธอถูกไล่ออก และแสดงความเสียใจต่อข่าวดังกล่าว
การเปิดเผยบทสนทนาดังกล่าวจุดชนวนให้นายทรัมป์ออกมาทวีตข้อความบริภาษเป็นชุด เริ่มตั้งแต่การแสดงความโกรธกริ้ว “โอมาโรซาคนพิลึกที่ถูกไล่ออก 3 ครั้งในดิ แอพเพรนทิซ ถึงตอนนี้ถูกไล่ออกเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่ควรทำ ไม่ควรจะทำเลย”
ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้อ้างว่านางมานิกอลต์ นิวแมน “ได้ลงนามในข้อตกลงไม่เปิดเผยเรื่องราวใดๆ อย่างเต็มใจ!” นับเป็นการยอมรับเป็นครั้งแรกว่าสมาชิกในฝ่ายบริหารได้รับการร้องขอให้ลงนามในข้อตกลงให้ปิดปากเงียบที่อาจเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้
