สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 30สิงหาคม ตำรวจเกาหลีใต้บุกค้นสำนักงานใหญ่ของบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ผู้ผลิตรถยนตร์ชื่อดังจากเยอรมนีในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ หลังมีรายงานเครื่องยนต์ของรถบีเอ็มดับเบิลยูเกิดเพลิงไหม้หลายสิบคัน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลกรุงโซลนายหนึ่งเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่าบีเอ็มดับเบิลยูปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับข้อบกพร่องของรถยนต์อยู่หรือไม่ โดยได้ยึดเอกสารและเครื่องมืออื่นๆ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ
ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัป รานงานว่าอ้างการเปิดเผยของตำรวจนายหนึ่งด้วยว่า นี่เป็นปฏิบัติการเพื่อนำความจริงมาเปิดเผย และระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ปีนี้มีรถบีเอ็มดับเบิลยูกว่า 40 คัน เกิดไฟไหม้ขึ้น จนทำให้ที่จอดรถบางแห่งปฏิเสธที่จะรับจอดรถบีเอ็มดับเบิลยูเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู โคเรีย ยังไม่มีการออกมาแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ข่าวระบุว่า ในเดือนนี้ เกาหลีใต้ได้สั่งห้ามรถบีเอ็มดับเบิลยูที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยวิ่งบนท้องถนนเป็นการชั่วคราว และมีเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูหลายรายที่ยื่นเรื่องฟ้องร้องขอให้มีการสอบสวนบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู โคเรีย ได้เรียกคืนรถยนต์ 106,000 คัน ที่มีระบบวาล์วที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียนในการเผาไหม้อีกรอบ หรือ อีจีอาร์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ โดยรถที่เรียกคืนทั้งหมดมี 42 รุ่นด้วยกัน ทั้งหมดเป็นรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล
รายงานแจ้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู โคเรีย ถูกฟ้องร้องหลายคดีด้วยกันในเกาหลีใต้ และปัญหาไม่น่าจะเกิดเฉพาะในเกาหลีใต้ โดยตัวเลขจากสมาคมผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกาหลี ระบุว่า รถยนต์นำเข้าของเกาหลีใต้ มีถึง 6 ใน 10 คันที่นำเข้ามาจากเยอรมนี โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรถบีเอ็มดับเบิลยูเกือบ 39,000 คัน ที่ขายได้ในเกาหลีใต้
