เว็บยาฮูรายงานว่า ชีวิตบั้นปลายของ เบิร์ต เรย์โนลด์ พระเอกฮอลลีวู้ดรุ่นใหญ่ที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายในวัย 82 ปีเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ตกอับถึงขนาดไม่มีบ้านของตัวเองอยู่ และต้องขายสมบัติมีค่าหลายชิ้น แม้กระทั่งรางวัลโกลเด้น โกลบ หรือ ลูกโลกทองคำที่ได้จากภาพยนตร์เรื่อง Boogie Nights ในฐานะนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมเมื่อปี 2541
จากข่าวเล่าว่า จากนักแสดงที่มีชื่อเสียง เรย์โนลด์กลายเป็นบุคคลล้มละลายเนื่องจาก ขาดทุนย่อยยับในการลงทุนต่างๆ แล้วยังปัญหาการหย่าร้างกับ โลนี แอนเดอร์สัน ภรรยาคนที่สอง ที่ทำให้เขาต้องเสียเงินจำนวนมาก จากนั้นเมื่อปี 2557 เรย์โนลด์ยังได้นำสมบัติมีค่าหลายชิ้นออกประมูลขาย ซึ่งมีทั้ง เรือแคนนูที่เคยใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Deliverance,”หนังดังเมื่อปี 2515 ,รถยนต์ Pontiac Trans-Amที่ปรากฎในภาพยนตร์เรื่อง Smokey and the Bandit เมื่อปี 2520 และรางวัลลูกโลกทองคำ ที่เขาได้จากเรื่องBoogie Nights หรือแม้แต่ นาฬิกาเรือนทองที่ แซลลี ฟิลด์ นักแสดงเจ้าบทบาท อดีตคนรักเคยซื้อให้เป็นของขวัญ
ทั้งนี้ แม้แต่บ้านที่เรย์โนลด์ ใช้ชีวิตอยู่ก่อนเสียชีวิต ก็ไม่ได้เป็นสมบัติของเขาแล้ว โดยเว็บทีเอ็มซี เปิดเผยว่า เพราะประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้เรย์โนลด์ต้องขายแมนชั่นหรูในเมืองจูปิเตอร์ รัฐฟลอริดา แต่โชคดีที่ได้ ชาร์ลส์ โมดิคา เพื่อนบ้านซึ่งเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัยพ์ เข้ามาซื้อไว้เมื่อปี 2558 ด้วยราคา 3.3 ล้านดอลลาร์ หรือราว 108.57 ล้านบาท และให้เรย์โนลด์อาศัยอยู่ต่อ โดยเก็บค่าเช่าถูกมากแทบจะเหมือนให้อยู่ฟรี
“ตอนนั้นเขากำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่แย่มาก และเครียดมาก ผมจึงโทรศัพท์ไปหาเขาและบอกว่า ผมต้องการจะช่วย ” นายโมดิคา บอก
