สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 20 เมษายนว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เปิดเผยว่า เหตุเรือผู้ลี้ภัยล่มกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 คน หลังจากผู้ค้ามนุษย์พยายามที่จะยัดเยียดผู้อพยพให้ขึ้นเรือทั้งที่เรือเต็มแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 เมษายน รัฐบาลโซมาเลียเปิดเผยว่า อาจจะมีชาวโซมาเลียเสียชีวิตจากเหตุเรือล่มดังกล่าวขณะพยายามเข้าไปในยุโรปอย่างผิดกฎหมายราว 200 คน หรือมากกว่านั้น แต่ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุว่า หลังจากการพูดคุยกับผู้รอดชีวิตพบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะสูงกว่านั้น และมีการยืนยันว่า อาจจะเสียชีวิตมากถึง 500 คน จากเหตุเรือล่มในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนช่วงระหว่างประเทศลิเบียกับอิตาลี แต่ไม่สามารถระบุสถานที่แน่ชัดได้
ยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุว่า ผู้รอดชีวิตซึ่งเป็นชายวัย 37 ปี ผู้หญิง 3 คน และเด็กวัย 3 ขวบ 1 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือและนำตัวไปยังประเทศกรีซเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เปิดเผยว่า พวกตนเป็นผู้อพยพในกลุ่ม 100-200 คนที่ล่องเรือจากลิเบียไปยังอิตาลี หลังจากล่องอยู่ในทะเลหลายชั่วโมง ผู้ที่เป็นคนควบคุมพยายามที่จะนำพวกตนลงเรือที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่มีผู้อพยพอยู่เต็มแล้ว ทำให้เรือล่มในที่สุด และต้องลอยคออยู่กลางทะเลนานถึง 3 วัน ถึงจะมีคนมาช่วย
