เว็บไซต์นิวส์ลอนดรีดอตคอมและเอบีซีนิวส์รายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในอินเดียเพิ่มขึ้น 296 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็น 3 เท่า ในช่วง 23 ปีหลังสุด โดยมีผู้เสียชีวิตในปีนี้แล้วมากกว่า 160 รายทั้งทางตอนใต้และตะวันออกของประเทศอินเดีย ขณะที่ทางการเตือนว่าฤดูมรสุมที่จะมาช่วยบรรเทาความร้อนยังคงอยู่อีกยาวไกล
ข่าวระบุว่า คลื่นความร้อนในปีนี้ของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วกว่า 160 ราย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในเตลังคานา รัฐใหม่ล่าสุดของอินเดียราว 66 ราย ที่รัฐอานธรประเทศมีอย่างน้อย 45 ราย และ 55 รายในรัฐโอริสสาที่มีอุณหภูมิสูงถึง 46 องศาเซลเซียส โดยโรงเรียนทั้งหมดในรัฐโอริสสาจะยังคงปิดไปจนถึงวันที่ 26 เมษายนจากคลื่นความร้อนและวิกฤตการขาดน้ำ ขณะที่แหล่งน้ำใหญ่สำคัญๆ 91 แห่งทั่วประเทศเหลือปริมาณน้ำอยู่เพียง 23 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 ทศวรรษ โดยมีรายงานว่าภาวะภัยแล้งในอินเดียปีนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 300 ล้านคน
ทั้งนี้ การมีอุณภูมิสูงสุดอยู่ที่ 45 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันนิยามได้ว่าเป็นคลื่นความร้อน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเครียดทางกายภาพและอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยข้อมูลจากสำนักจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินเดียระบุด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนทั่วประเทศอินเดียระหว่างปี 2535 – 2558 มากถึง 22,563 ราย ขณะที่ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2559 ของสำนักจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินเดีย ระบุว่า เมื่อปี 2535 อากาศที่ร้อนในช่วงฤดูร้อนคร่าชีวิตคนไป 612 รายในอินเดีย และในปี 2558 มีผู้เสียชีวิตจากอากาศที่ร้อนในอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 2,422 ราย