สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 กันยายนระบุว่า มากกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ของประชากรชาวญี่ปุ่นในตอนนี้ถูกจัดให้เป็นผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการ นับเป็นอัตราสูงที่สุดของโลกในช่วงเวลาที่คลื่นลูกแรกของประชากรในยุคเบบี้บูมเมอร์ส หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2489-2507 เริ่มเข้าสู่วัยชรา
โดยคนที่มีอายุ 65 ปีหรือมากกว่านั้น ถึงตอนนี้มี 35.6 ล้านคน หรือคิดเป็น 28.1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ อัตราส่วนดังกล่าวถือว่าสูงที่สุดของโลกในตอนนี้ นำหน้าอิตาลีที่ 23.3 เปอร์เซ็นต์ โปรตุเกส 21.9 เปอร์เซ็นต์ และเยอรมนีที่ 21.7 เปอร์เซ็นต์ อ้างอิงจากข้อมูลของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังเปิดเผยด้วยว่าผู้ที่มีอายุ 70 ปีหรือมากกว่ายังคิดเป็น 20.7 เปอร์เซ็นต์ของประชากร นับเป็นการพุ่งทะลุ 20 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งแรกอีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์นี้เกิดขึ้นจากการผสมผสานกันของอัตราการเกิดที่ต่ำและอายุขัยเฉลี่ยที่ยาวนานขึ้น
จำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความปวดหัวให้กับบรรดาผู้กำหนดนโยบายซึ่งต้องเผชิญกับความพยายามที่จะทำให้ประชากรวัยทำงานที่หดตัวลงสามารถจ่ายเงินทดแทนให้กับจำนวนผู้รับเงินบำนาญที่เพิ่มมากขึ้น
