สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน ประธานาธิบดี มุน แจ อิน แห่งเกาหลีใต้และนาย คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือลงนามในแถลงการณ์ร่วมและแถลงข่าวร่วมกันถึง ผลการหารือสุดยอดครั้งที่ 3 ของผู้นำทั้งสอง ที่กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ โดยในการหารือผู้นำเกาหลีเหนือตกลงที่จะทำลายสถานที่สำคัญในการพัฒนาขีปนาวุธของประเทศภายใต้การสังเกตการณ์ของผู้เชี่ยวชาญจากประเทศที่เกี่ยวข้อง และยังเต็มใจที่ปิดกลุ่มอาคารหลักในการพัฒนานิวเคลียร์ของตนที่ยองบยอนเป็นการถาวร โดยมีข้อแม้ว่า สหรัฐอเมริกาต้องดำเนินการตอบสนองในทำนองเดียวกันซึ่งไม่มีการระบุรายละเอียดของการดำเนินการดังกล่าว
แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาจะออกมาคาดหวังสูงมากกับการคืบหน้าครั้งนี้ โดยทวีตข้อความระบุว่าเป็นพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์และกิจการเกาหลีเหนือกลับชี้ว่า การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือคืบหน้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยระบุว่า เกาหลีเหนือยังไม่รับปากเชิญผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมการเลิกล้มทำลายสถานที่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ในขณะที่ยองบยอนเองนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสละทิ้งได้อยู่ก่อนแล้ว
ข่าวระบุว่า ส่วนที่รุดหน้าไปไกลอย่างเห็นได้ชัดคือความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี เนื่องจากไม่เพียงแต่ คิม จอง อึน จะรับปากเดินทางเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่เดินทางเยือนกรุงโซลนับตั้งแต่สงครามคาบสมุทรเกาหลีเรื่อยมาแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังตกลงในความร่วมมือทางเศรษฐกิจ, ร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน 2030 และหารือในการรวมทีมนักกีฬาเข้าร่วมในการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 2020 อีกด้วย แม้ว่าจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าความร่วมมือบางประการอาจละเมิดมติแซงก์ชันเกาหลีเหนือของสหประชาชาติก็ตาม