สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การพบปะกันระหว่างนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ประเทศเกาหลีเหนือ ระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน ถือว่าบรรลุความสำเร็จอย่างมาก หลังจากเกาหลีเหนือประกาศจะปิดสถานที่ทดลองนิวเคลียร์ พร้อมกับประกาศจะร่วมมือกับเกาหลีใต้ในการยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกปี 2032 และนายคิมตกลงที่จะเดินทางเยือนกรุงโซล เกาหลีใต้ในเร็วๆนี้ด้วย ซึ่งจะถือเป็นการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ครั้งแรกของผู้นำเกาหลีเหนือนับตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดลงเมื่อปี 1953
นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีทั้งสองยังเห็นชอบที่จะเปิดพื้นที่ถาวรสำหรับการพบกันของชาวเกาหลีเหนือและใต้ที่ต้องพลัดพรากจากกันในช่วงสงครามเกาหลี และจะเดินหน้าร่วมกันสร้างถนนและเส้นทางรถไฟเชื่อมสองเกาหลีเข้าด้วยกัน
ข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการหารือกันระหว่างสองผู้นำ ทั้งคู่ได้เดินทางไปยังเทือกเขาเพกตู ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศจีน และยอดเขาที่เป็นต้นกำเนิดของชาติเกาหลี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสองเกาหลี ซึ่งมียอดเขาสูงถึง 2,744 เมตร
โดยตามเรื่องที่เล่าขานกันมาของชาวเกาหลีเหนือ ระบุว่า เทือกเขาแห่งนี้ยังเป็นที่กำเนิดของนายคิม จอง อิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือผู้ล่วงลับ บิดาของนายคิม จอง อึน ซึ่งเกิดขึ้นที่ค่ายลับแห่งหนึ่งที่นายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือและบิดาของนายคิม จอง อิล ใช้เป็นฐานทัพในการต่อสู้กับกองทัพของจักรวรรดิญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปตามประวัติศาสตร์ของต่างชาติ นายคิม จอง อิล เกิดที่สหภาพโซเวียต ที่ซึ่งนายคิม อิล ซุง ลี้ภัยอยู่