สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างสื่อของทางการเวียดนามระบุว่า ประธานาธิบดีเจิ่น ดั่ย กวาง ของเวียดนาม ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อวันที่ 21 กันยายน ขณะมีอายุได้ 61 ปี
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นายเจิ่นอดีตผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงภายใน ผงาดขึ้นมาเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงที่ความเห็นต่างต่อต้านคัดค้านรัฐบาลบนโซเชียลมีเดียและท้าทายอำนาจการปกครองของพรรคเริ่มเพิ่มมากขึ้น ส่งสัญญาณให้เกิดการจำกัดการเคลื่อนไหวอย่างเสรีในเวียดนาม แม้ว่าจะมีการเปิดกว้างด้านการเปลี่ยนแปลงในสังคมและการปฏิรูปเศรษฐกิจในวงกว้าง
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเวียดนามระบุว่า นายเจิ่นเสียชีวิตที่โรงพยาบาลทหารในกรุงฮานอยจาก “อาการป่วยรุนแรงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ”
นายเหวียน ก๊วก เจือ อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขที่ปัจจุบันทำหน้าที่ดูแลอาการป่วยของเจ้าหน้าที่ระดับสูง เปิดเผยว่า นายเจิ่นป่วยมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยเริ่มต้นแสดงอาการเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วและได้เดินทางไปเข้ารับการรักษาที่ญี่ปุ่น 6 ครั้งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นายเหวียนยังเปิดเผยด้วยว่า “นายเจิ่นป่วยด้วยการติดเชื้อไวรัสร้ายแรงชนิดหนึ่งที่ยังไม่มีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผล”
เวียดนามไม่มีผู้นำที่มีอำนาจสูงสุดและการบริหารราชการนำโดย “อำนาจ 4 ฝ่าย” นั่นคือ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์และประธานรัฐสภา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมีบทบาทด้านพิธีการเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจในการตัดสินใจสูงในคณะกรรมการโปลิตบูโรของพรรค
ก่อนหน้าที่จะได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี นายเจิ่นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะ โดยเป็นผู้นำองค์การที่มีอำนาจอย่างกว้างขวาง ทำหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมข่าวกรองและสกัดกั้นยับยั้งภัยคุกคามต่อพรรคคอมมิวนิสต์ทั้งจากภายในและต่างประเทศ
