สหรัฐขู่คู่อริ เอาจริงสงครามไซเบอร์ พร้อมตอบโต้ในทุกพื้นที่

(FILES) จอห์น โบลตัน / AFP PHOTO

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นาย ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเมื่อวันที่ 20 กันยายนว่า สหรัฐจะจริงจังมากขึ้นในสงครามไซเบอร์กับจีน รัสเซีย และคู่อริชาติอื่นๆ โดยกล่าวว่า “ยุทธศาสตร์ด้านไซเบอร์ที่ชัดเจนฉบับแรกในรอบ 15 ปี ของประเทศ” มีผลบังคับใช้แล้ว

จุดยืนใหม่ที่แข็งกร้าวมากขึ้นมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐตัดสินใจเพิกถอนกฎระเบียบที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามากำหนดไว้ว่า จำเป็นต้องมีการตัดสินใจในระดับสูงสำหรับการปฏิบัติการด้านการทหารทางไซเบอร์ใดๆ ก็ตาม

“เราไม่ได้ถูกมัดมือไว้เหมือนในยุคฝ่ายบริหารของโอบามาอีกต่อไป” นายโบลตันกล่าว และว่า “สำหรับประเทศใดๆ ก็ตามที่มีกิจกรรมทางไซเบอร์ต่อสหรัฐ เราจะตอบโต้ทั้งในเชิงรุกเช่นเดียวกับในเชิงรับ และไม่ใช่การตอบโต้ทุกครั้งจะอยู่ในโลกไซเบอร์เสมอไป”

นายโบลตันอ้างถึงจีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซียว่าเป็นแหล่งของภัยคุกคามสำคัญ โดยระบุว่า “อเมริกันและชาติพันธมิตรตกอยู่ภายใต้การโจมตีทางไซเบอร์ทุกวัน”

Advertisement

การรุกล้ำที่เป็นปฏิปักษ์พุ่งเป้าเล่นงานทุกอย่างตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงระบบราชการ ธุรกิจและการเลือกตั้ง

ในบรรดาเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นและอื้อฉาวที่สุดคือการแฮกบัญชีอีเมล์ของสมาชิกระดับสูงพรรคเดโมแครตที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 ที่นายทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันเอาชนะตัวเก็งอย่างนางฮิลลารี คลินตันจากพรรคเดโมแครตไปได้อย่างน่าประหลาดใจ

ขณะที่ในด้านการป้องกันนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) ระบุว่า ความพยายามของสหรัฐจะรวมไปถึงการ “เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่าย” และปรับปรุงความมั่นคงด้านไซเบอร์ แต่ยุทธศาสตร์ใหม่ที่เพนตากอนเรียกว่า “ตอบโต้ สกัดกั้น ลดระดับและยับยั้ง” การโจมตี เน้นไปยังสิ่งที่มากกว่าการมีระบบป้องกันการบุกรุกหรือไฟร์วอลล์ที่ดีขึ้น

Advertisement

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐระบุว่า ทางกระทรวงได้ใช้อำนาจในการคว่ำบาตรทางไซเบอร์เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของรัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน และชาติอื่นๆ เพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมหลายอย่างในวงกว้าง ขณะที่นางสาวเคิร์สเทน นีลเซน รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเปิดเผยว่า ทางกระทรวงจะผลักดันให้มีการปรับปรุงกฏหมายการสอดแนมทางอิเล็กทอนิกส์และอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศเปิดเผยว่าจะเน้นไปที่การเพิ่มความพยายามในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ตในชาติพันธมิตร “เนื่องจากธรรมชาติในการเชื่อมต่อของโลกไซเบอร์”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image