‘ทรัมป์’ เตรียมใช้อำนาจประธานาธิบดีเล่นงาน ‘กูเกิล-เฟซบุ๊ก’

. (Photo by MANDEL NGAN / AFP)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 23 กันยายนนี้ว่า สื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกาพากันกระพือข่าวประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมใช้อำนาจประธานาธิบดี ออกคำสั่งเชิงบริหาร เล็งให้อำนาจหน่วยงานต่อต้านการผูกขาด เล่นงานสื่อสังคมออนไลน์หลายบริษัท รวมทั้ง กูเกิล และ เฟซบุ๊ก แม้ว่า ทำเนียบขาวยืนกรานไม่เกี่ยวข้องกับการร่างคำสั่งดังกล่าว

รายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีนี้สะพัดออกไปในสื่อหลายแขนงของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาโจมตีบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีหลายบริษัทเมื่อเดือนที่ผ่านมา เตือนให้ระวังตัว และโจมตีผลการสืบค้นผ่านเสิร์ชเอ็นจิ้นบนอินเตอร์เน็ตว่าถูกบิดเบือนโดยเจตนา

ทั้งนี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บ่นว่า ถ้าหากสืบค้นผ่านกูเกิลโดยใช้คำว่า “Trump’s News” ผลลัพธ์ที่ได้เกือบทั้งหมดจะเป็นเรื่องราวในทางลบเกี่ยวกับตัวทรัมป์เท่านั้น ซึ่งทางอัลฟาเบท อิงค์. ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บสืบค้นกูเกิล ได้ออกมาปฏิเสธ และยืนยันว่าผลการสืบค้นผ่านเว็บของตนไม่ได้มีการตกแต่งบิดเบือนให้เอนเอียงไปในทางใดทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามรายงานข่าวระบุว่า ร่างคำสั่งเชิงบริหาร ที่เตรียมไว้แล้วนี้มุ่งเน้นไปที่การเล่นงานเรื่องการบิดเบือน เอนเอียงนี้โดยเฉพาะ โดยในสำเนาของร่างคำสั่งดังกล่าวซึ่งถูกส่งไปยังสื่อมวลชนหลายแห่ง มีข้อความตอนหนึ่งว่า “สำนักงานของฝ่ายบริหารและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีอำนาจที่สามารถใช้เพื่อส่งเสริมการแข่งขันระหว่างแพลทฟอร์ม (กิจการ) ออนไลน์ทั้งหลายได้ ควร…ใช้อำนาจที่มีเหล่านั้นไปเพื่อส่งเสริมการแข่งขันซึ่งกันและกันดังกล่าวและเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีแพลทฟอร์ม ออนไลน์ใด สามารถใช้อำนาจในตลาดของตนได้ในทางที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงอันตรายอันเกิดจากการบิดเบือน เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดด้วย”

Advertisement

นอกจากนั้นยังระบุต่อไปด้วยว่า “ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 วันนับตั้งแต่วันประกาศคำสั่งนี้ หน่วยงานต่างๆ จะต้องยื่นบัญชีแรกเริ่มต่อ ผู้อำนวยการสภาการเศรษฐกิจแห่งชาติ ตามรายการในบัญชีดังนี้ (1) การดำเนินการใดๆ ซึ่งแต่ละหน่วยงานสามารถกระทำได้ในอันที่จะอำนวยให้เกิดผล เพื่อคุ้มครองการแข่งขันระหว่างแพลทฟอร์มออนไลน์ต่างๆ และแก้ปัญหาแพลทฟอร์มออนไลน์ต่างๆ กระทำการอันบิดเบือนเอนเอียง”

ในขณะเดียวกันร่างดังกล่าวยังเรียกร้องให้ หน่วยงานของรัฐบาลกลาง ลงมือสืบสวนสอบสวนว่า เกิดการกระทำอันอาจเข้าข่าย “ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด” โดยแพลทฟอร์มออนไลน์ทั้งหลายหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ ฉบับวันที่ 23 กันยายนนี้ รายงานว่า ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ระดับผู้ช่วยประจำทำเนียบขาว โดยเจ้าหน้าที่ดังกล่าว 3 รายกล่าวว่า ไม่ได้เป็นผู้เขียนร่างดังกล่าวและไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า ร่างคำสั่งดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสผู้หนึ่ง เพียงยืนยันว่า ร่างคำสั่งดังกล่าวมีอยู่จริง แต่ยังไม่ได้ดำเนินการผ่านกระบวนการอย่างเป็นทางการที่จำเป็นต้องผ่านการพิจารณาของ สำนักเลขานุการประจำทำเนียบประธานาธิบดีแต่อย่างใด

Advertisement

ในขณะที่ นางลินด์ซีย์ วอเทอร์ส รองโฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากล่าวเพียงว่า แม้ว่าทางทำเนียบฯ จะเป็นกังวลต่อพฤติกรรมของแพลทฟอร์มออนไลน์ต่างๆ และผลกระทบที่ก่อให้เกิดขึ้นกับสังคม แต่ร่างคำสั่งดังกล่าว ไม่ได้เป็นผลลัพธ์ของกระบวนการกำหนดนโยบายของทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กูเกิล และบริษัทอินเตอร์เน็ตอื่นๆ เคยถูกร้องเรียนเกี่ยวกับผลการสืบค้นผ่านเสิร์ชเอ็นจินของแต่ละรายอยู่หลายครั้ง เนื่องจากกระบวนการสืบค้นดังกล่าวกระทำโดยอัลกอริธึมสำหรับการสืบค้น ซึ่งยึดถือเอาประวัติในการเข้าชมเว็บไซต์, ตำแหน่งของสถานที่ที่ใช้สืบค้น และองค์ประกอบอื่นๆ มาเป็นปัจจัยหลักในการแสดงผลการสืบค้นออกมา

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยชาญด้านเทคโนโลยีและนักวิเคราะห์ด้านสื่อ ให้ความเห็นตรงกันว่า มีหลักฐานบ่งชี้น้อยมากที่แสดงให้เห็นว่า กูเกิล บิดเบือนผลการสืบค้นโดยเจตนาเพื่อหวังผลทางการเมือง หรือหากกูเกิล ทำเช่นนั้นจริง ทรัมป์เองก็แทบไม่มีอะไรใช้เป็นเครื่องมือในการไล่เบี้ยเอาผิดกับกูเกิล ภายใต้การคุ้มครองของเสรีภาพในการแสดงออกที่ได้รับการคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image