‘ปอร์เช่’ เลิกใช้เครื่องดีเซล เผยไม่รับออร์เดอร์มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

(Christoph Schmidt/dpa via AP)

เมื่อวันที่ 23 กันยายน สำนักข่าวเอเอฟพีและเอพี รายงานว่า นายโอลิเวอร์ บลูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ ปอร์เช่ รถสปอร์ตหรูประกาศตัวเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของเยอรมนีที่เลิกผลิตรถยนต์ซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล สืบเนื่องจากปัญหาการตกแต่งผลการปล่อยมลภาวะของ โฟล์คสวาเกน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ ปอร์เช่ ที่ทำให้ทางการเยอรมนีห้ามนำรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาวิ่งในเขตเมือง

ซีอีโอของ ปอร์เช่ ให้สัมภาษณ์ บิลด์ แอม ซอนทาจ หนังสือพิมพ์เยอรมันเมื่อวันที่ 23 กันยายนนี้ ระบุว่า จะไม่มีรถปอร์เช่ใช้ดีเซลวิ่งอยู่ตามท้องถนนในอนาคต โดยบริษัทจะหันมาผลิตรถใช้พลังงานน้ำมันเบนซิน, ต่อด้วยรถยนต์ไฮบริด และเริ่มตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไปปอร์เช่จะผลิตรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวออกมาเป็นทางเลือกด้วย

โอลิเวอร์ บลูม ยอมรับตรงไปตรงมาว่า การกำหนดขั้นตอนเหล่านี้ เป็นผลสืบเนื่องจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการตกแต่งผลการปล่อยมลภาวะของเครื่องยนต์ดีเซลของโฟล์คสวาเกน หรือที่เรียกกันว่า ดีเซลเกต ซึ่งยืดเยื้อต่อเนื่องมานาน 3 ปีแล้ว และยอดขายรถดีเซลในเยอรมนีลดลงอย่างฮวบฮาบหลังจากหลายเมืองประกาศห้ามนำออกขับภายในเขตเมืองของตน

ปอร์เช่ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครสตุตการ์ต เริ่มไม่รับออร์เดอร์ผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องดีเซลมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ผลิตขายมานานเกือบ 10 ปี โดยไม่เคยพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลเอง แต่ใช้เครื่องยนต์ของออดี้ มอเตอร์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ทำให้ภาพลักษณ์ของปอร์เช่ได้รับความเสียหายตามไปด้วย

Advertisement

หลังสุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำนักงานการขนส่งแห่งเยอรมนี บังคับให้ปอร์เช่ ต้องเรียกคืนรถเอสยูวีของตนในยุโรปกลับเกือบ 60,000 คัน หลังพบปัญหาในเครื่องยนต์แบบ 8 สูบอียู5 ในรถรุ่นคาเยน (Cayenne) ในรถ 3,500 คัน

ทั้งนี้ทางการเยอรมนีตั้งเป้าให้มีรถยนต์ทั้งแบบไฮบริดและรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบบนท้องถนนในประเทศให้ถึง 1 ล้านคันในปี 2022 หรือปีพ.ศ. 2565 แม้ว่าในเวลานี้จะมีอยู่ไม่ถึง 100,000 คันก็ตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image