สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากำหนดเข้าร่วมในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ในวันที่ 24 กันยายน นี้ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และถูกจับตามองจากทั่วโลกอีกครั้งในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่ถูกยึดถือเป็นศัตรูหมายเลข 1 เมื่อปีที่แล้ว แต่ในขณะที่ความสัมพันธ์กับนายคิมพัฒนาขึ้นอย่างมาก บรรดาผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมประจำปีที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์กก็จะได้รับรู้ถึงท่าทีและทัศนะของผู้นำสหรัฐอเมริกาต่อ ปฏิปักษ์อีกรายอย่างประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีของอิหร่าน
ตามแผนที่เตรียมการไว้ นายทรัมป์มีกำหนดการรัดตัวในช่วงไม่กี่วันหลังจากนี้ โดยเริ่มจากการกล่าวปาฐกถาเรื่องการค้ายาเสพติดทั่วโลกในวันที่ 24 กันยายน ต่อจากนั้นนายทรัมป์ต้องขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมยูเอ็นจีเอในวันที่ 25 กันยายน นอกจากนี้ยังมีหมายกำหนดการพบปะหารือแบบทวิภาคีกับผู้นำต่างชาติหลายคน ตั้งแต่ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครงของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษ และนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่นซึ่งทั้งคู่ได้พบกันไปแล้วเมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 กันยายน
หนึ่งในการหารือทวิภาคีที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดคือการพบกับประธานาธิบดีมุน แจ อินของเกาหลีใต้ ซึ่งจะสรุปผลการประชุมสุดยอด 2 เกาหลีที่ได้หารือกับนายคิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่กรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือให้นายทรัมป์ฟัง
ในขณะที่นายคิมไม่ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมยูเอ็นจีเอครั้งนี้เหมือนเช่นเดิม แต่บรรดาผู้สังเกตการณ์ต่างรอดูว่าการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างนายทรัมป์กับนายคิมจะเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร แม้นายทรัมป์จะเพิ่งแสดงออกถึงความหงุดหงิดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยืนยันว่าความพยายามที่จะโน้มน้าวชักจูงรัฐบาลเกาหลีเหนือให้ปลดอาวุธนิวเคลียร์มีพัฒนาการไปในทางบวก
อย่างไรก็ตามมีความคาดหวังน้อยมากที่นายทรัมป์จะญาติดีกับศัตรูอีกคน นั่นคือประธานาธิบดีอิหร่าน โดยสหรัฐสร้างความไม่พอใจให้กับพันธมิตรจำนวนมากเมื่อถอนตัวจากข้อตกลงที่ร่วมเจรจากับชาติมหาอำนาจโลกอื่นๆ เมื่อปี 2558 ที่ให้ยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านเพื่อแลกกับการควบคุมโครงการนิวเคลียร์
ถึงอย่างนั้นก็ตาม ทำเนียบขาวไม่ได้ปิดตายโอกาสในการพบปะหารือระหว่างนายทรัมป์กับนายรูฮานีในเวทีการประชุมยูเอ็นจีเอปีนี้ โดยระบุว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
