สเปนติดเชื้อ ‘ท้องเสียโนโรไวรัส’ กว่า 4 พันคน หลังดื่มน้ำแร่ปนเปื้อนอุจจาระ

Image/CDC

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน กระทรวงสาธารณสุขสเปนแจ้งว่า มีผู้ล้มป่วยจากการติดเชื้อท้องเสียโนโรไวรัสถึงกว่า 4,000 คน ทางตอนเหนือของประเทศสเปน หลังจากดื่มน้ำแร่ที่ปนเปื้อนอุจจาระของมนุษย์เข้าไป

โดยรัฐบาลแห่งแคว้นคาตาลันแจ้งว่า มีผู้ป่วย 4,146 คน จากเมืองบาร์เซโลนา และเมืองตาร์ราโกนา ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวหลังมีอาการคลื่นเหียน อาเจียน และเป็นไข้ นับตั้งแต่มีผู้ป่วยรายแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน หลังจากดื่มน้ำแร่ที่มีการปนเปื้อนเข้าไป และมี 6 คนที่ต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล

นายอัลเบิร์ต บอช ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา เปิดเผยว่า ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่พบโนโรไวรัสในขวดน้ำดื่ม ซึ่งปกติมักจะพบอยู่ในน้ำประปา ซึ่งอาจจะมีน้ำอุจจาระปนเข้าไปในน้ำสำหรับดื่มได้ แต่กรณีนี้เป็นเรื่องของน้ำดื่มในขวด ซึ่งต้องผ่านกระบวนการต่างๆ และไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ขณะที่บริษัท เอเดน สปริงส์ บริษัทน้ำดื่มที่มีปัญหาดังกล่าว ได้เรียกคืนน้ำดื่มของบริษัทกว่า 6,150 ขวด ที่ถูกแจกจ่ายไปตามบริษัทต่างๆ 925 บริษัท เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน หลังเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น พร้อมกับระบุว่า น้ำแร่ที่มีปัญหาการปนเปื้อนนั้นเป็นน้ำแร่ที่มีการบรรจุขวดที่เมืองอันดอร์รา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างประเทศสเปนกับฝรั่งเศส

Advertisement

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคาตาลันได้ประกาศว่า การระบาดของโนโรไวรัสได้ยุติลงแล้ว หลังจากไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โนโรไวรัส ไม่ค่อยจะทำอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่มีการแพร่ระบาดสูง โดยสามารถแพร่จากผู้ติดเชื้อ จากอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนหรือจากการสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อน ขณะที่ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่จะฟื้นตัวได้ภายในเวลา 2-3 วัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image