สำนักข่าวเอเอฟพี เอพีและบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นจีนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมตามหลังความชุลมุนวุ่นวายทั่วโลก โดยหุ้นของบริษัทราว 1,000 แห่งร่วงลงถึงขีดจำกัดประจำวันที่ 10 เปอร์เซ็นต์
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลง 5.22 เปอร์เซ็นต์หรือ 142.38 จุด มาอยู่ที่ 2,583.46 จุด นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 เป็นต้นมา ขณะที่ดัชนีเสิ่นเจิ้นคอมโพสิตดิ่งลง 6.45 เปอร์เซ็นต์ หรือ 89.15 จุด มาอยู่ที่ 1,293.90 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2014
นับเป็นการร่วงลงครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากที่ทั้งดัชนีเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น ร่วงลงเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นเอเชียแห่งอื่นๆ ทั้งญี่ปุ่นและฮ่องกงร่วงลงเช่นกันในวันเดียวกันนี้ตามตลาดหุ้นวอลตรีทของสหรัฐอเมริกาที่มีผลงานย่ำแย่สุดในรอบหลายเดือนภายหลังการแสดงความคิดเห็นของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่ระบุว่ากองทุนสำรองแห่งรัฐหรือธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) “เป็นบ้าไปแล้ว” จากแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และนักลงทุนกังวลถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่เริ่มแพร่กระจายเป็นงกว้างมากขึ้นจนทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
การซื้อขายหุ้นของบริษัทจีนหลายแห่งต้องถูกระงับภายหลังจากที่หุ้นของบริษัทเหล่านี้ร่วงลงหรือเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์และมีราว 1,000 บริษัทที่ราคาหุ้นดิ่งลงถึงระดับขีดจำกัดในวันเดียวกันนี้
หุ้นของภาคการธนาคารร่วงลงมากที่สุดในตลาดเซี่ยงไฮ้ โดยหุ้นของไอซีบีซี ธนาคารยักษ์ใหญ่ร่วงลง 2.70 เปอร์ซ็นต์มาอยู่ที่ 5.40 หยวน ขณะที่หุ้นของธนาคารเพื่อการก่อสร้างจีน (ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์-ซีซีบี) ปิดลดลง 3.75 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 6.68 หยวน
ด้านบริษัทซอฟต์แวร์เป็นผู้สูญเสียมากที่สุดในตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น โดยหุ้นของดิจิวินซอฟต์แวร์ร่วงลง 10 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นขีดจำกัดในรอบ 1 วันมาอยู่ที่ 9.09 หยวน ขณะที่หุ้นของยูนิสเปลนเดอร์ คอร์ป ลดลง 9.37 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 35.98 หยวน
หุ้นของบริษัทนายหน้าร่วงลงเช่นเดียวกัน โดยหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ซิติก ซีเคียวริตีส์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ลดลง 6.07 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 15.17 หยวน ส่วนหุ้นของชานซี ซีเคียวริตีส์ร่วงลงถึงขีดจำกัด 10 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 5.43 หยวน
ขณะที่หุ้นในดัชนีนิกเคอิ 225 ร่วงลง 224 จาก 225 หุ้น คิดเป็น 3.5 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นการลดลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาเมื่ออังกฤษลงประชามติออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิท
ทั้งนี้เมื่อวันก่อนหน้า ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ในตลาดหุ้นวอลสตรีทของสหรัฐร่วงลง 99.89 จุด คิดเป็น 3.5 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 848.31 จุดหรือคิดเป็น 3.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนดัชนีแนสแด็กร่วงลง 366.39 จุด คิดเป็น 4.7 เปอร์เซ็นต์