จีนได้ดุลการค้าสหรัฐทุบสถิติ เติมเชื้อไฟสงครามการค้าระอุ

(Chinatopix via AP)

สำนักข่าวเอเอฟพพีและรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลของทางการจีนที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมระบุว่า ตัวเลขเกินดุลการค้าของจีนต่อสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็นสถิติที่ 34,100 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน แม้ว่าสหรัฐจะบังคับใช้กำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าของจีนจำนวนมากก็ตาม นับเป็นการเติมเชื้อไฟให้สงครามการค้าร้อนแรงมากขึ้นอีก

ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกเลวร้ายลงอย่างมากในปีนี้จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศอีกครั้งเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาว่าจะสร้างความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจให้จีนหากว่าจีนไม่ยอมถอย

ทั้งนี้ ข้อมูลของสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 46,700 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 12,600 ล้านดอลลาร์

ประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก 2 แห่งต่างกำหนดกำแพงภาษีใหม่มูลค่ามหาศาลต่อสินค้านำเข้าของอีกฝ่ายเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสหรัฐตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้านำของสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์

Advertisement

“ความขัดแย้งด้านการค้าของสหรัฐกับจีนสร้างปัญหาและกระหน่ำซ้ำเติมพัฒนาการด้านการค้าต่างประเทศของเรา” นายหลีุ่้ยเหวิน โฆษกของสำนักงานศุลกากรจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ขณะที่ตัวเลขดุลการค้าทั้งหมดของจีน ที่หมายถึงสินค้าที่จีนซื้อมาและขายให้กับทุกประเทศรวมถึงสหรัฐด้วยอยู่ที่เกินดุลการค้า 31,700 ล้านดอลลาร์ จากที่การส่งออกเติบโตมากกว่าการนำเข้า

การส่งออกเพิ่มขึ้น 14.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มากกว่าการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ที่สำรวจโดยบลูมเบิร์ก ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 14.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

Advertisement

และในขณะที่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการค้าของจีนยังคงแข็งแกร่งในเดือนนี้ แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสงครามการค้าจะเริ่มสร้างความเสียหายให้จีนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“ภาพใหญ่คือการส่งออกของจีนยังคงดีจนถึงตอนนี้แม้ว่าจะเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้าที่ยกระดับขึ้นและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอตัวลง โดยแนวโน้มส่วนใหญ่ต้องขอบคุณการอ่อนค่าลงของเงินหยวน” นายจูเลียน อีแวนส์ พริทชาร์ด นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนของบริษัทหลักทรัพย์แคปปิตอลอีโคโนมิกส์ กล่าวและว่า จากที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเริ่มชะลอตัวลงอีกในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้าและกำแพงภาษีลงโทษของสหรัฐจะเริ่มรุนแรงขึ้น ทำให้ความยืดหยุ่นด้านการส่งออกของจีนที่ได้เห็นก่อนหน้านี้จะไม่สามารถทนรับได้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image