เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลเร่งรุดไประงับเหตุหลังการประท้วงในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่ใกล้กับนครย่างกุ้งของเมียนมา ได้แปรสภาพกลายเป็นความรุนแรง หลังกลุ่มผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บหลายรายเมื่อถูกนักเลงที่ได้รับการว่าจ้างมาทำร้าย
คนงานในโรงงานทอผ้าฟูหยวนชานนครย่างกุ้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงได้ก่อเหตุประท้วงมานานกว่า 2 เดือนแล้ว เพื่อเรียกร้องให้มีการปรับปรุงสภาพการทำงานและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างไม่เหมาะสม แม้ว่าข้อเรียกร้องส่วนใหญ่ของแรงงานจะได้รับการตอนสนอง แต่เจ้าของโรงงานปฏิเสธที่จะจ้างแรงงานราว 30 คน ที่เป็นผู้ร่วมก่อหวอดให้พนักงานลุกขึ้นประท้วงกลับเข้าทำงาน ทำให้แรงงานยิ่งโกรธเคืองและตั้งแคมป์หน้าประตูโรงงานเพื่อแสดงความไม่พอใจ
หนึ่งในผู้นำการประท้วงระบุว่า หลังจากการประท้วงยืดเยื้อยาวนานกว่า 8 สัปดาห์ มีการว่าจ้างอันธพาลราว 40 คน เข้ามาทุบตีคนงานด้วยไม้และท่อนเหล็กเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 28 คน ในจำนวนนี้ 6 คน อาการสาหัส
หลังจากนั้นความรุนแรงได้ลุกลามออกไป ชาวบ้านได้ขว้างปาก้อนหินและไม้เข้ามาในโรงงาน รวมถึงทุบกระจกแตก จนตำรวจปราบจราจลราว 24 นาย ต้องเข้ามาควบคุมฝูงชนที่โกรธแค้นด้านนอกโรงงาน อย่างไรก็ดียังไม่มีรายงานว่าตำรวจได้จับกุมใครไปบ้าง
ทั้งนี้คนงานในโรงงานดังกล่าวมีอยู่ราว 1,300 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิง 1,200 คน และชาย 100 คน อุตสาหกรรมสิ่งทอได้ย้ายฐานการผลิตเข้าไปยังพม่าซึ่งมีค่าแรงต่ำ เมื่อปีที่ผ่านมา การส่งออกสิ่งทอสร้างรายได้ให้กับพม่าได้ราว 2,000 ล้านบาท โดยตลาดใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดคือยุโรป ซึ่งอาจได้รับผลกระทบอย่างหนักหากยุโรปประกาศมาตรการคว่ำบาตรพม่า เนื่องจากวิกฤตการณ์โรฮีนจาที่ทำให้ชาวมุสลิมโรฮีนจากว่า 720,000 คน ต้องลี้ภัยความรุนแรงในพม่าไปยังบังกลาเทศ
