อ่วม! อดีตนายกฯมาเลย์โดนอีกข้อหา โยงปล้นเงินรัฐกว่า 5 หมื่นล้านบ.

นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขณะเดินทางมาถึงศาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม (เอเอฟพี)

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกจากการถูกกล่าวหาว่าปล้นเงินรัฐไป มีมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์ (ราว 52,640 ล้านบาท) ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาล่าสุดที่นายนาจิบถูกดำเนินคดีนับจากหมดอำนาจ

โดยศาลกรุงกัวลาลัมเปอร์แจ้งข้อหาดำเนินคดีนายนาจิบ และนายโมฮัมหมัด อีรวน เซรีการ์ อับดุลเลาะห์ อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงการคลังมาเลเซีย ในข้อหาการกระทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายรวม 6 กระทง ซึ่งเกี่ยวกับการยักยอกเงินของภาครัฐไปจำนวน 1,600 ล้านดอลลาร์ ที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมปี 2559-เดือนธันวาคมปี 2560 ซึ่งในแต่ละฐานความผิดมีโทษสูงสุดคือจำคุก 20 ปี อย่างไรก็ดีจำเลยทั้งสองได้ปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

นายนาจิบ ทักทายกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารุมล้อม ขณะเดินทางถึงศาล (เอเอฟพี)

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เงินจำนวนดังกล่าวที่นายนาจิบและนายโมฮัมหมัดถูกกล่าวหาว่ายักยอกไป ถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้ของกองทุน1เอ็มดีบีที่มีอยู่กับ ไอพีไอซี กองทุนเพื่อความมั่งคั่งอาบูดาบี ทั้งนี้กองทุน 1เอ็มดีบี มีหนี้สินจำนวนมหาศาล ท่ามกลางการกล่าวหาว่าเงินจำนวนมากในกองทุนเพื่อการพัฒนาประเทศแห่งนี้ของมาเลเซียถูกยักยอกไปและถูกนำไปซื้อทรัพย์สินราคาแพงต่างๆ เช่น เรือยอร์ช อสังหาริมทรัพย์ และงานศิลปะล้ำค่า

นายโมฮัมหมัด อีรวน เซรีการ์ อับดุลเลาะห์ อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงการคลังมาเลเซีย (เอเอฟพี)

นอกจากนี้ยังจะมีนายฮาซานาห์ อับดุล ฮามิด อดีตหัวหน้าหน่วยสอดแนม ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับนายนาจิบ ที่จะถูกนำตัวขึ้นศาลรับทราบข้อกล่าวหาในวันเดียวกันด้วย
ทั้งนี้นับจากการร่วงหล่นจากอำนาจหลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายนาจิบได้ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาต่างๆรวมแล้ว 38 กระทง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินในกองทุน1เอ็มดีบี มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image